อาชญากรรม

บุกทลายแก๊งขายปะการังออนไลน์ พบของกลางกว่า 300 ชิ้น

โดย kanyapak_w

17 ส.ค. 2565

631 views

สอบสวนกลาง โดย บก.ปทส. สนธิกำลังกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง บุกค้นแหล่งค้าปะการังออนไลน์ ยึดของกลางกว่า 300 ชิ้น



กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม และเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง



ร่วมกันจับกุม นายฐิติพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ค้าและมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562



พร้อมตรวจยึดของกลาง ทั้งหมดจำนวน 307 ชิ้น ดังนี้

1. ปะการังแข็ง ​จำนวน 216 ชิ้น

2. กัลปังหา ​จำนวน 7 ชิ้น

3. ดอกไม้ทะเล ​จำนวน 9 ชิ้น

4. ซากปะการัง  ​จำนวน  75 ชิ้น



สถานที่จับกุม บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร



พฤติการณ์ ตามที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้มอบนโยบายแผนปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทาง กก.1 บก.ปทส. ได้ดำเนินการสืบสวนปราบปรามผู้ที่มีพฤติการณ์ลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากการสืบสวนพบว่ามีผู้ที่กระทำความผิดสร้างความเสียหายและเป็นการส่งเสริมการทำลายทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล



ซึ่งนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังทำให้ระบบนิเวศทางธรรมชาติเสียไปด้วย



ดังนั้น กก.1 บก.ปทส. ได้ประสานหน่วยงานของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งทาง นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีนโยบายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินการกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายด้วยเช่นกัน




จากการสืบสวนของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ทราบว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กลักลอบค้าปะการังแข็ง, กัลปังหาและดอกไม้ทะเล ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมี นายฐิติพงศ์ฯ เป็นพ่อค้ามีการจำหน่ายปะการังชนิดต่างๆ ให้กับลูกค้าที่มีความชอบ



จากพฤติกรรมของผู้ที่กระทำความผิด อาจสร้างความเสียหายและเป็นการส่งเสริมการทำลายทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ซึ่งนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังทำให้ระบบนิเวศทางธรรมชาติเสียไปด้วย บก.ปทส. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย



จากการสืบสวนพบว่า นายฐิติพงศ์ฯ ใช้บ้านพักภายใน ซอยสุวินทวงศ์ ๑๓ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ลักลอบเลี้ยงปะการัง-ดอกไม้ทะเล ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เพื่อการค้าจำนวนมากจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายค้นต่อศาลอาญามีนบุรี




และในวันที่ 16 ส.ค. 2565 เวลาประมาณ 06.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส.ได้ประสานงาน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อสนธิกำลังและเข้าตรวจสอบโดยนำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าทำการตรวจค้นอาคารดังกล่าว



พบนายฐิติพงศ์ฯ อายุ 31 ปี แสดงตนเป็นเจ้าของบ้าน ผลการตรวจสอบภายใน พบสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่นๆ ได้แก่ ปะการังแข็ง จำนวน 216 ชั้น, กัลปังหา จำนวน 7 ชิ้น, ดอกไม้ทะเล จำนวน 9 ชิ้น, ถูกเลี้ยงอยู่ในตู้กระจกบรรจุน้ำเค็มสำหรับเพาะเลี้ยงปะการัง และยังพบซากปะการัง จำนวน 75 ชิ้น รวมทั้งหมด จำนวน 307 ชิ้น จึงได้ตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน  




สอบถาม นายฐิติพงศ์ฯ ให้การว่าปะการัง ดอกไม้ทะเลของกลางที่อยู่ภายในบ้านทั้งหมด สั่งซื้อมาทางอินเทอร์เน็ต เพื่อนำมาเพาะเลี้ยงเป็นงานอดิเรก เมื่อเลี้ยงจนมีขนาดใหญ่ขึ้น ได้ประกาศขายโดยลงภาพและข้อความโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กให้กับผู้สนใจซื้อ ปะการังขายชิ้นละ 100 ถึง 1,000 บาท คิดราคาตามขนาด และความสวยงาม ซึ่งตนไม่มีหลักฐานการได้รับอนุญาตให้ครอบครองหรือค้าจากทางราชการแต่อย่างใด



เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. จึงแจ้งข้อกล่าวหา "ค้าและมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนของกลาง พนักงานสอบสวนนำส่งให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งตรวจพิสูจน์ต่อไป



สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา(ความผิดฐานครอบครอง) ม.17 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 500,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (ความผิดฐานค้า) ม.29 ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปีปรับไม่เกิน 1 ล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ




แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม ,สัตว์ทะเล ,ปะการัง

คุณอาจสนใจ

Related News