จับตารัฐสภา 10 ส.ค.นี้ จ่อเค้าองค์ประชุมไม่ครบ มีแนวโน้มตีตกสูตรหาร 500

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองนับตั้งแต่วันพรุ่งนี้ จะเป็นมหากาพย์ให้ติดตาม เพราะนอกจากการพิจารณาร่างกฏหมายประกอบรัฐธรรนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ส่อเค้าว่า สภาฯ จะล่ม เพราะองค์ประชุมไม่ครบ จะเป็นการเอื้อต่อการส่งอำนาจให้พลเอกประวิตร หรือไม่ สอดคล้องกับการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติจะยื่นต่อประธานสภาฯในวันที่ 17 สิงหาคมนี้


นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ไม่ขอให้ความเห็นว่า การที่สมาชิกรัฐสภา ไม่เข้าประชุมโดยไม่ลาหรือแจ้งเหตุผลล่วงหน้า เพื่อให้องค์ประชุมไม่ครบ จนส่งผลให้การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.พิจารณาไม่ทันภายใน 180 วันนั้น ถือว่าไม่เป็นความผิด แต่เป็นเรื่องที่ต้องชี้แจงกับประชาชน จึงได้แต่ขอความร่วมมือจากสมาชิกในการผ่านร่างกฎหมายที่สำคัญ


ขณะที่ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า สมาชิกวุฒิสภาทุกคนพร้อมเข้าร่วมประชุม และอยู่ประชุมจนเลิก เกิน 200 คนจาก 250 คนแน่นอน ส่วนว่าองค์ประชุมจะครบหรือไม่ อยู่ที่ ส.ส. ที่เพียงเข้าประชุม 1 ใน 3 ก็ครบองค์ประชุมแล้ว ส่วนตัวเชื่อว่าหากจะให้ผ่านก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าพรุ่งนี้เกิดอุบัติเหตุ ก็กลับไปใช้ร่างแรกที่ใช้สูตร 100


ในส่วนท่าทีของ ส.ส. นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ยอมรับว่า ครั้งนี้มีปัจจัยที่ทำให้การประชุมรัฐสภาอาจจะไม่ราบรื่นเหมือนทุกครั้ง เพราะวันที่ 10 ส.ค. ตรงกับวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน ที่อาจจะมี ส.ส. ลาประชุมบ้าง โดยพรรคเพื่อไทยก็ต้องยืนยันกับประชาชนว่าเราพร้อมทำหน้าที่เพื่ออกกฏหมายที่ดี ซึ่งทราบดีว่ากฏหมายที่ผ่านในวาระที่ 2 มีการใช้อำนาจเผด็จการ ที่ต้องยับยั้ง จึงจำเป็นหาก ส.ส.ไม่แสดงตน หรือ วอล์คเอ้าท์ โดยวิปฝ่ายค้านมีมติให้เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค ที่อาจมีความเห็นตรงกัน


ขณะที่นายศรัณย์วุฒิ ศรันย์เกตุ ส.ส.จังหวัดอุตรดิตถุ์ ออกมาเรียกร้อง ให้พรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ ออกมาสาบานต่อวัดพระแก้วว่ามีดีลลับจับมือกันระหว่างระบอบป้อม และ ระบอบทักษิณ เพื่อให้สภาฯล่ม หรือไม่ เพื่อให้ได้ใช้บัตร 100 ผลักดันให้ พลเอก ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี ตามแผน ล้มตู่ชูป้อม ถือเป็นสิ่งที่ต้องตอบกับประชาชน


นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.พรรคพลังหระชารัฐ ในฐานะเลขานุการวิปรัฐบาล ยืนยันว่า พลเอกประวิตร ไม่เคยมีคำสั่งให้สมาชิกพรรคไม่เข้าร่วมประชุม เพื่อให้กลับมาใช้สูตร 100 และพรรคพลังประชารัฐไม่ได้เล่นเกมการเมืองจับมือฮั้วกับพรรคการเมืองใดอย่างแน่นอน การลงมติโหวต ถือเป็นเอกสิทธิของ ส.ส.


ส่วนอีกความเคลื่อนไหวสำคัญถูกจับตาไปที่การยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติร่วมกัน ที่จะใช้ช่องทางของรัฐสภา ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 170 ในการตรวจสอบคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี โดยจะรวบรวมรายชื่อ ส.ส. ในนามพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของ พลเอก ประยุทธ์ ในวันที่ 17 ส.ค. นี้ โดยจะยื่นให้มีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วย เพราะหากครบ 24 สิงหาคม อาจเกิดความเสียหายได้

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีเรื่องนี้ แต่บอกเพียงว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ พลเอกประยุทธ์ สามารถไก้ได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งการย้ายข้าราชการ หรือการปรับคณะรัฐมนตรี


แต่มีการจับตาไปที่ท่าทีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่ได้ล็อบบี้ ส.ส.และ ส.ว.ให้ล้มกฏหมายสูตรหาร 500 และหลุดปากเมื่อถูกสื่อมวลชนสอบถามว่าพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ โดยพลเอกประวิตร ตอบว่ายัไม่ได้คิดเลย เพราะนายกรัฐมนตรีจะอยู่ต่ออีก 2 ปี และไม่ยอมตอบเมื่อผู้สื่อข่าวมาถามย้ำว่าสุดท้ายแล้วการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี จะนับตามแนวทางว่าเริ่มนับตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีผลบังคับใช้หรือไม่