โจ๋นับ 10 รุมต่อยเด็กวัย 15 เบ้าตาบวมแดง กลางโรงเรียน ฉุนเบิ้ลเครื่องใส่

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความลงในกลุ่ม "ชาวตะพง รักตะพง" ระบุว่า "ขออนุญาต แอดมินค่ะ เมื่อวานวันพฤหัสบดีเมื่อเวลาช่วง 4 โมงครึ่ง ได้มีทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายบริเวณในโรงเรียน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นน้องชายของเรา ที่โดนทำร้ายร่างกาย กลุ่มที่ทำร้ายร่างกายมีประมาณ 10 คน ซึ่งสาเหตุเราก็ไม่รู้หรอกว่าเกิดจากอะไร ถ้า 10 คนในนั้นเป็นลูกหลานของท่าน ทางเราจะดำเนินคดีเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จะไม่มียกเว้นกรณีใดทั้งนั้น ณ ตอนนี้ทางเราได้แจ้งความไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม พวกคุณใน 10 คนนี้ ไม่สมควรที่จะมาทำร้ายร่างกาย ซึ่งบริเวณร่างกายนั้นที่หนักที่สุดคือดวงตา ถ้าเกิดน้องชายของเราได้เสียลูกตาดวงนั้นไป พวกคุณจะมีปัญญารับผิดชอบไหม มีพยานหลายคนนะคะที่เห็นเหตุการณ์ และสามารถชี้ตัวบุคคลนั้นได้ ขอผู้ปกครองลูกหลานของท่านออกมารับผิดชอบด้วยค่ะ วันจันทร์จะไปพบ ผอ.ที่โรงเรียนนะคะ (ไม่ยกโทษให้ค่ะ ขอบคุณค่ะ)"



ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับหญิงผู้โพสต์ อายุ 24 ปี ได้ชี้ให้เห็นบาดแผลที่น้องชายโดนรุมทำร้าย ที่เบ้าตามีบาดแผลบวมแดง นอกจากนี้ยังได้โชว์ใบตรวจร่างกายและใบลงบันทึกประจำวันให้ดูด้วย



โดยเธอเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม เวลา 16.30 น. น้องชายได้ไปหาซื้อของกิน และไปนั่งเล่นอยู่ริมสนามฟุตบอลของโรงเรียน โดยระหว่างนั่งเล่นอยู่นั้น ได้มีกลุ่มวัยรุ่นนับ 10 คน เข้ามาหาและได้เรียกน้องชายไป กล่าวหาว่าน้องชายตนไปเบิ้ลเครื่องรถจักรยานยนต์ใส่ แต่ยังไม่ทันได้ถามจนได้คำตอบ กลุ่มวัยรุ่น 3 คน ได้รุมชกต่อยน้องชายทันทีจนได้รับบาดเจ็บที่เบ้าตา ก่อนพากันหนีไป ระหว่างนั้นมีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ และจำได้ด้วยว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ทำร้ายน้องชายตนคือวัยรุ่นในตะพง



ต่อมาตนจึงพาน้องชายไปตรวจร่างกาย และพาไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองระยอง เพื่อให้ตำรวจติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป เนื่องจากสิ่งที่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวทำ มันรุนแรงเกินไป หากน้องชายตนผิดจริง ก็แค่ว่ากล่าวตักเตือนก็พอ หากทำรุนแรงแล้วเบ้าตาแตก ตาบอดขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด ไม่ยอมความใด ๆ ทั้งสิ้น



ด้านเด็กชายผู้เสียหาย อายุ 15 ปี เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเรื่องมีกลุ่มวัยรุ่นมาหาว่าตนขี่รถเบิ้ลเครื่องเสียงดัง ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่ได้เบิ้ลเครื่องเลย และกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก็ไม่เคยมีเรื่อง หรือบาดหมางกันมาก่อน และตอนนี้ได้พักการเรียนอยู่ เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ จึงขาดเรียนบ่อย



เบื้องต้นทาง ผอ.โรงเรียน ทราบเรื่องแล้ว และจะดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มวัยรุ่นที่กล้ามาก่อเหตุภายในเขตโรงเรียน ซึ่งจะได้รวบรวมหลักฐาน และจะไปแจ้งความที่ สภ.เมืองระยอง เพิ่มเติมด้วย