เปิดปฏิบัติการกวาดล้างอาวุธเถื่อน 126 จุดทั่วประเทศ จับผู้ต้องหาได้ 51 ราย

วันนี้ ตำรวจเปิดยุทธการ สอบสวนกลางกวาดล้างปืนเถื่อน ทั่วประเทศ ตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 126 จุด ทั่วประเทศ พบอาวุธปืนกว่า 1 พันรายการ พร้อมกันนี้ยังได้เข้าตรวจค้นบ้านของผู้ต้องหา ที่เช่าไว้ซุกซ่อนวัตถุระเบิดด้วย

ยุทธการ สอบสวนกลางกวาดล้างปืนเถื่อน เปิดปฏิบัติการ เมื่อเช้ามืดของวันนี้ โดยเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทั่วประเทศ พบหลายพื้นที่ มีอาวุธปืนเถื่อนไว้ในครอบครอง และมีขายปืนทางออนไลน์ในตลาดมืด

จากการเข้าตรวจค้น สามารถยึดอาวุธปืนสงคราม อาวุธปืนทั่วไป ปืนไทยประดิษฐ์ จำนวนกว่า 1000 รายการ เครื่องกระสุนปืนกว่า 3500 นัด และอุปกรณ์ที่ใช้เก็บเสียง ลักลอบผลิตในไทยอีกจำนวนมาก ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะทำให้ก่อเหตุร้ายได้ง่ายขึ้น เช่นการปล้นร้านทอง ที่จ.ลพบุรี ก็ได้นำอุปกรณ์มาช่วยในการเก็บเสียงในการก่อเหตุ เบื้องต้น จับกุมผู้กระทำความผิดได้จำนวนทั้งสิ้น 51 ราย และผู้ครอบครองปืนส่วนใหญ่ จะพบว่าเกี่ยวพันกับยาเสพติดจำนวน 46 ราย

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า อาวุธปืนเป็นบ่อเกิดของอาชญากรรมรุนแรงทุกประเภท โดยพบว่าพื้นที่ 6 จุดหลักทั้งกทม. เชียงราย นครปฐม สุพรรณบุรี ปทุมธานี เป็นทั้งแหล่งผลิต และ แหล่งจำหน่าย

จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับเส่วนใหญ่จะเป็นการทำเพื่อการค้า และ และบางส่วนเป็นนักสะสมปืน ส่วนเส้นทางของอาวุธปืนเถื่อนส่วนใหญ่จะสั่งซื้อหรือนำเข้ามาจากต่างประเทศ แต่ก็มีบางส่วนที่ผลิตดัดแปลงขึ้นมาเอง โดยหลังจากนี้จะนำอาวุธปืนทั้งหมดส่ง ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์เทียบเคียงกับคดีเก่า เพื่อตรวจสอบว่าเคยถูกนำไปใช้ก่อคดีมาแล้วหรือไม่

ขณะที่เมื่อเช้านี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและทีมสืบสวนได้เข้าตรวจค้นที่บ้านหลังหนึ่งย่านบางบัวทอง พบนายสุขสันต์ อายุ 19 ปี และนายไพฑูรย์ อายุ 20 ปี เป็นสมาชิกกลุ่มก็มาดิแก๊ส ผู้มาเช่าบ้านในราคาเดือนละ 5 พันบาทได้เพียง 2 เดือน พบวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง ส่วนประกอบจำนวนหลายชนิด โดยพบว่าชายทั้งสองคนมาจาก จ.เพชรบูรณ์ มีอาชีพส่งของตามร้านสะดวกซื้อ

จาการสอบสวนพบว่าทั้งสองคนเป็นผู้ก่อเหตุปาระเบิดใส่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 11 กันยายน ซึ่งทั้งสองยอมรับว่าประกอบระเบิดขึ้นเอง โดยร่วมกับผู้ต้องหาชาย อายุ 19 ปี ย่านภาษีเจริญอีก 1 คนที่ถูกจับกุมด้วยเช่นกัน