สังคม

‘วาสนา นาน่วม’ เปิดผลสอบ ‘เสธ.โก้’ ทำไมตัดสินใจปล่อยตัว 152 คนไทย กลับไปกักตัวที่บ้าน

โดย

5 เม.ย. 2563

10.9K views

เฟซบุ๊ก วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร ได้โพสต์ข้อความกรณีปล่อย 152 คนไทยกลับบ้าน โดยระบุข้อความว่า เปิดผลสอบ “เสธ.โก้” “พลตรี” สุวรรณภูมิ ทำไมตัดสินใจปล่อยตัว 152 คนไทยกลับไปกักตัวที่บ้าน หลังพยายามเจรจาแล้วไม่เป็นผลหวั่นบานปลาย ต่อสาย ถก ผอ. EOC สธ. สุวรรณภูมิตัดสินใจให้ปล่อยไปก่อนแล้วค่อยตามกลับมา
มีรายงานข่าว จาก ศปม. ว่า จากที่เกิดเหตุการณ์คนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 152 คนไม่ให้ความร่วมมือแก่เจ้าหน้าที่ในการเข้าสู่มาตรการการกักตัวเป็นเหตุให้มีความวุ่นวายเกิดขึ้น ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งแต่ บ่ายจนถึงค่ำ 3 เมย.2563
จนเป็นเหตุให้ พลตรีโกศล ชูใจ นายทหารกลาโหม ต้องมาเจรจา และยอมปล่อยให้คนไทย กลับบ้าน ไม่ต้องกักกันตัวจนถูกวิจารณ์อย่างหนักนั้น
จากการตรวจสอบเบื้องต้นของ ศปม...พบว่า เกิดจากการที่ผู้โดยสารใช้เวลารอขั้นตอนการตรวจโรค การตรวจสอบของ จนท. เป็นเวลานานหลายชม. และไม่มีจนท.ผู้รับผิดชอบที่ตัดสินใจได้ มาดูแลให้ข้อมูลผู้โดยสารที่รออยู่จนเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นไม่ยอมรับการกักตัว ตามพรก.ฉุกเฉิน และเรียกร้องให้ผู้ใหญ่มาเจรจา
ซี่งในระหว่างนั้น เสธ.โก้ พลตรีโกศล ชูใจ ได้ปฏิบัติหน้าที่ที่สุวรรณภูมิเพราะได้รับมอบหมายจากกลาโหม ไปทำหน้าที่ประสานงานเรื่องการจัดยานพาหนะ ในการรับส่งผู้โดยสาร ที่กลับจากต่างประเทศ ไปกักกันตัว
แต่ไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด แต่ได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่มาช่วยเจรจา กับผู้โดยสารที่แสดงความไม่พอใจก่นด่าเพราะเห็นเป็นผู้ใหญ่สุด
แต่เมื่อพยายามเจรจาชี้แจงด้วยข้อกฏหมายแล้วผู้โดยสารไม่ยอม พลตรีโกศล จึงได้ติดต่อกับ ผอ.EOCสธ. เพื่อปรึกษาหารือจนที่สุดก็ได้รับการบอกกล่าวว่า ให้ปล่อยกลับบ้านไปก่อน เพราะหากยื้อกันต่อไป จะเกิดความวุ่นวาย และอาจลุกลาม. จึงได้ปล่อยตัวกลับบ้านไป ก่อน ไปกักตัวที่บ้านแล้วค่อยติดตามกลับมา
จนทำให้ถูกกระแสสังคม โจมตีว่าทำไมตัดสินใจปล่อยกลับบ้านโดยพลการ พลตรีโกศล เป็น นายทหารเสือราชินี ที่โตจาก ร.21 รอ. และรับราชการในภาคอิสาน และ เป็น ตท.24
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นกลาโหมมีคำสั่งเรียกตัวพลตรีโกศลกลับกลาโหม ไม่ต้องมาช่วยงานที่สุวรรณภูมิ และถูกตั้งกก.สอบสวนข้อเท็จจริงว่าใช้อำนาจหน้าที่เกินไปหรือไม่
ดังนั้น พลเอกพรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด/หัวหน้า ศปม. จึงมีคำสั่งแต่งตั้งให้ บิ๊กเบิร์ด พลเอก ปริพัฒน์ ผลาสินธุ์ รองเสนาธิการทหาร เข้ากำกับดูแลการบังคับใช้ข้อกำหนดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (Emergency Operation Center หรือ EOC) ทั้งที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง เพื่อชี้แจงข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง รวดเร็ว
พร้อมทั้งทำหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่ผ่านการคัดกรองและจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการควบคุมโรคตามมาตรการของรัฐที่กำหนด ( State Quarantine ) เพื่อนำเข้าพื้นที่ควบคุมโรคต่อไป
และ มอบหมายให้ บิ๊กไก่ พลเอก สุพจน์ มาลานิยม รองเสนาธิการทหาร เป็นผู้รับผิดชอบในการติดตามตัว ผู้โดยสารที่เดินทางกลับประเทศไทยและไม่ยินยอมเข้าสู่กระบวนการ State Quarantine กลับมา
นอกจากนี้ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด/หัวหน้า ศปม. กล่าวว่าจากการตรวจสอบเหตุการณ์เเละทุกส่วนที่เกี่ยวข้องก็พบว่ามาตรการการดำเนินการยังเป็นการดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้แต่เมื่อวานนี้เป็นวันแรกที่มีการประกาศยกระดับการห้ามออกนอกบ้าน (เคอร์ฟิวส์) ซึ่งผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรจะต้องผ่านการตรวจสอบเป็นรายบุคคลทุกคน แต่ในการบริหารจัดการดังกล่าวอาจจะทำให้ผู้โดยสารเกิดการรอคอยนานกว่าปกติ 
เนื่องจากเราจะต้องรอจำนวนผู้โดยสารเพื่อที่จะได้เดินทางไปสถานที่กักตัวพร้อมกันเพื่อไปยังสถานกักกันโรค ซึ่งตรงนี้เราก็มีจุดอ่อนเล็กน้อยในการบริหารจัดการอารมณ์จนเกิดความไม่ราบรื่นในการใช้มาตรการ แต่เราก็ทำเพื่อประชาชนและครอบครัวของผู้เดินทางกลับมา
ด้าน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเป็นห่วงเหตุความวุ่นวาย หลังจากมีเที่ยวบินผู้โดยสารจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายกรัฐมนตรี ขอให้ครอบครัว ผู้ปกครอง และบุคคลที่เดินทางกลับจากต่างประเทศได้เข้าใจในขั้นตอนการทำงานของรัฐบาลในการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 โดยทุกคนที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงจะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังจากเดินทางเข้ามายังประเทศไทยแล้ว ผู้โดยสารหรือบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศไทย ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่รัฐบาลกำหนด 
โดยให้กักกันเฝ้าระวังเป็นระยะเวลา 14 วัน และต้องไปรายงานตัวต่อศูนย์คัดกรองโควิด-19 ประจำหมู่บ้านหรือชุมชนท้องที่ที่อำเภอกำหนด ฝ่าฝืน มีโทษตาม พรก ฉุกเฉิน โดยไม่มีข้อยกเว้น
นายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนเข้าใจในการทำงานของรัฐบาลที่มีความพยายามในการแก้ไขปัญหาเพื่อป้องกันและยับยั้งการระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกสบายในช่วงนี้ จึงขอให้ประชาชนอดทน ให้ความร่วมมือเพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว และเพื่อสังคมจะได้ปลอดภัย หากไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ปฎิบัติตาม จะส่งผลเสียตามมาทีหลัง
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/YwCemoWyJcw

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ