WHO ประกาศ 'ฝีดาษลิง' เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ - สหรัฐฯพบเด็กป่วย 2 ราย

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้โรคฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิง เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ หลังทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น


การประกาศดังกล่าวขององค์การอนามัยโลก เกิดขึ้นหลังจากการประชุมของคณะกรรมมาธิการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเกี่ยวกับโรคฝีดาษลิง ครั้งที่ 2 ของ WHO ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวานนี้


อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าการประชุมจะไม่ได้มติที่เป็นเอกฉันท์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญโหวตเห็นชอบ เพียงแค่ 6 เสียงเท่านั้น ในขณะที่ผู้ที่โหวตคัคด้านมี 9 เสียง แต่ในที่สุดแล้ว องค์การอนามัยโลกก็เลือกที่จะประกาศให้โรคฝีดาษลิง เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ


ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว การที่ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกจะออกมาประกาศเรื่องต่าง ๆ มักจะอิงตามคำแนะนำของคณะกรรมการเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวอย่างน้อย 2 แห่ง ซึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า เหตุผลที่ WHO ตัดสินใจประกาศให้ฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ทั้ง ๆ ที่ไม่ผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการทั้งหมดนั้น เป็นเพราะมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น และการที่ยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษาที่เพียงพอ


โดย นายเท็ดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เผยว่า จนถึงขณะนี้พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้วกว่า 1 หมื่น 6 พันคน ใน 75 ประเทศทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน


อย่างไรก็ดี ผอ.อนามัยโลก ยังบอกอีกว่า ตอนนี้อัตราการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงทั่วโลก ยังถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง ยกเว้นทวีปยุโรป ที่พบว่ามีการแพร่ระบาดหนักที่สุด รวมทั้ง ในสหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย ไนจีเรีย อิสราเอล บราซิล และ เม็กซิโก ด้วย


ทั้งนี้ การประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ จะทำให้องค์การอนามัยโลกสามารถระดมทุนเพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดได้มากขึ้น รวมถึงสร้างความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ เพื่อพัฒนาการรักษา และแบ่งปันวัคซีน


นอกจากนี้ ที่สหรัฐฯ พบเด็กเล็กติดเชื้อฝีดาษลิง 2 รายแรก และเป็นการแพร่เชื้อในครอบครัว โดยศูนย์ควบคุมป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ CDC เปิดเผยว่า เด็กเล็ก 2 ราย ที่ติดเชื้อฝีดาษลิง เป็นเด็กวัยหัดเดินในรัฐแคลิฟอร์เนีย และเด็กทารกที่ไม่ใช่ชาวอเมริกัน เด็กทั้งสองคนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน และเป็นการติดเชื้อภายในครอบครัว เด็กทั้งสองคนมีสุขภาพดีและตอนนี้อยู่ในระหว่างการรักษา


ด็อกเตอร์ เจนนิเฟอร์ แม็คควิสตัน รองผู้อำนวยการแผนกโรคและพยาธิวิทยาที่มีผลกระทบสูง ของ CDC กล่าวในการประชุมทางโทรศัพท์ว่า ไม่น่าแปลกใจที่พบโรคฝีดาษลิงในเด็ก แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่เราเห็นในขณะนี้ที่บ่งชี้ว่า ไวรัสนี้ได้แพร่ระบาดออกไปนอกชุมชนเกย์ กลุ่มรักร่วมเพศ และกลุ่มชายรักชาย


ด็อกเตอร์แม็คควิสตัน กล่าวว่า 99% ของผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงจำนวน 2 พัน 891 คน ที่ได้รับการยืนยันในสหรัฐฯ นั้นเกี่ยวข้องกับกลุ่มชายรักชาย แต่ก็มีผู้หญิงและผู้ชายข้ามเพศจำนวนหนึ่งที่ติดเชื้อฝีดาษลิงด้วย


เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ยังเปิดเผยด้วยว่า ตอนนี้รัฐบาลได้ส่งมอบวัคซีนฝีดาษลิงแล้วจำนวน 3 แสนโดส และตอนนี้ได้เร่งดำเนินการการขนส่งวัคซีนจากเดนมาร์กเพิ่มอีก 7 แสน 8 หมื่น 6 พันโดส และว่า ตอนนี้มีวัคซีนเพียงพอที่จะจัดหาให้ประชากรในนครนิวยอร์กกว่าครึ่งที่มีสิทธิจะได้รับ และมากกว่า 70 เปอร์เซนต์ในกรุงวอชิงตันดีซี และว่า สหรัฐฯกำลังประเมินว่า ควรจะประกาศให้ฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขหรือไม่