'สถานทูตญี่ปุ่น' เปิดให้คนไทย ลงนามแสดงความอาลัย 'อาเบะ' 12 และ 14 ก.ค.นี้

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานบรรยากาศการเคลื่อนย้ายร่างของ อดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ จากโรงพยาบาลในเมืองนารา กลับมายังบ้านพักในกรุงโตเกียว หลังจากนายอาเบะ เสียชีวิตจากการถูกลอบยิงขณะปราศรัยช่วยหาเสียงให้สมาชิกพรรคที่เมืองนารา เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา





โดยขบวนเคลื่อนออกจากโรงพยาบาลช่วงเช้าวานนี้ (9 ก.ค.65) มาถึงบ้านพักของนายอาเบะในย่านชิบูย่า กรุงโตเกียว เวลาประมาณ 13.30 น. โดยมีสมาชิกระดับสูงของพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ LDP สวมชุดสีดำมายืนตั้งแถวรอรับและเคารพศพนายอาเบะ หนึ่งในนั้นมีนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสมาชิกพรรค LDP ก็มาร่วมเคารพศพนายอาเบะด้วย ขณะเดียวกันก็มีประชาชนชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก เดินทางมาที่หน้าบ้านพักของนายอาเบะ เพื่อรอรับนายอาเบะกลับบ้าน





สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 11 ก.ค.นี้ จะมีการจัดพิธีไว้อาลัยให้กับนายอาเบะ ส่วนพิธีศพคาดว่าจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 12 ก.ค.นี้ ซึ่งจะเชิญเฉพาะคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดเท่านั้น





ส่วนที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟยามาโตะ-ไซไดจิ (Yamato-Saidaiji) ซึ่งเป็นจุดที่นายอาเบะถูกยิง ก็มีชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก นำดอกไม้มาวางเพื่อไว้อาลัยให้กับนายอาเบะ





นายอาเบะ ถูกนายเท็ตสึยะ ยามากามิ อายุ 41 ปี ใช้ปืนที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง ลอบยิงจากด้านหลัง ขณะที่นายอาเบะกำลังปราศรัยช่วยสมาชิกพรรคในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งแม้จะเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ แต่ทางการญี่ปุ่นยังคงให้ผู้สมัครสามารถหาเสียงต่อไป รวมทั้งจัดการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาตามกำหนดเดิม คือในวันนี้ (10 ก.ค.) แต่เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้น





ขณะที่สำนักงานตำรวจเมืองนารา แถลงว่า ได้ตั้งคณะทำงาน 90 คน เพื่อสอบสวนในคดีนี้แล้ว โดยจากการสอบปากคำนายเท็ตสึยะ ยามากามิ มือปืน อ้างว่า ตอนแรกเขาวางแผนจะทำร้ายผู้นำกลุ่มองค์กรศาสนากลุ่มหนึ่ง ที่เขาเชื่อว่าทำให้แม่ของเขาบริจาคเงินจนล้มละลาย ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายมาสังหารนายอาเบะ เพราะเชื่อว่านายอาเบะมีส่วนทำให้กลุ่มองค์กรดังกล่าวได้รับการส่งเสริมมากขึ้นในญี่ปุ่น และเขายังยืนยันว่า ไม่ได้ก่อเหตุเพราะเห็นต่างกับแนวคิดทางการเมืองของนายอาเบะ





ซึ่งตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่า นายยามากามิ ก่อเหตุโดยลำพังหรือไม่ และเหตุใดนายอาเบะจึงตกเป็นเป้าการโจมตี นอกจากนี้ จากการค้นที่พักของเขา ยังพบปืนประดิษฐ์อีกหลายรายการ และพบวัตถุคล้ายระเบิดด้วย





ขณะที่สำนักข่าวเกียวโด รายงานอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า นายยามากามิ เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ หลายครั้ง ตามที่นายอาเบะไปกล่าวปราศรัยหาเสียง โดยรู้กำหนดการของนายอาเบะจากโลกออนไลน์





ด้านสถานีโทรทัศน์ NHK ของญี่ปุ่น รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากกระทรวงกลาโหม ว่า นายยามากามิ เคยอยู่ในกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเล เป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปี 2548 ซึ่งเทียบเท่ากับกองทัพเรือของญี่ปุ่น ซึ่งระหว่างนั้นเขาได้รับการฝึกที่หลากหลาย รวมถึงฝึกการใช้อาวุธด้วย หลังจากนั้นในปี 2563 เขาเริ่มทำงานกับบริษัทผลิตสินค้าแห่งหนึ่งในภูมิภาคคันไซ ก่อนจะลาออกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยอ้างว่ามีปัญหาสุขภาพ และปัจจุบันเขาเป็นคนว่างงาน





ทั้งนี้ด้านสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้ประกาศแจ้งผ่านเพจเฟซบุ๊ก 'Embassy of Japan in Thailand/สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย' ระบุว่า "สมุดลงนามแสดงความอาลัยกรณีนายอาเบะ ชินโซถึงแก่กรรม (ลงนามวันที่ 12 และ 14 กรกฎาคม)



จากรณีที่นายอาเบะ ชินโซ อดีคนายกรัฐมนตรีญี่ปุนถึงแก่กรรมเมื่อวันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยได้จัดเตรียมสมุดลงนามแสดงความอาลัยในวันอังคารที่ 12 และวันพฤหัสที่ 14 กรกฎาคม โดยมีรายละเอียดดังนี้



1. วันและเวลา

วันอังคารที่ 12 และวันพฤหัสที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

เวลา   9.00 – 12.00 น. และ 14.00 – 16.00 น. (ปิดทำการเวลา 12.00 – 14.00 น.)

*เวลาจะแตกต่างจากเวลาทำการของแผนกกงสุล



2.  สถานที่

ชั้น 2 อาคารแผนกกงสุลและสำนักข่าวสารญี่ปุ่น สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย

177 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ  10330

(สถานเอกอัครราชทูตตั้งอยู่ระหว่างสถานีตำรวจลุมพินีและรถไฟใต้ดินสถานีลุมพินี ถนนวิทยุ)



3. เพิ่มเติม

ผู้ที่มีความประสงค์จะลงนามแสดงความอาลัยจำเป็นต้องแสดงบัตรประชาชนหรือเอกสารยืนยันตัวตน(ตัวจริง)ให้ฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่ประตูทางเข้าอาคารแผนกกงสุลและสำนักข่าวสารญี่ปุ่นเพื่อลงบันทึกการเข้าออกสถานเอกอัครราชทูต"