'ดร.อนันต์' เผย 'ฝีดาษลิง' ติดได้หลายทาง - WHO ย้ำป้องกันได้ ยังไม่ต้องฉีดวัคซีนหมู่

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถานการณ์โรคฝีดาษลิง โดยระบุว่า



"รายงานผลจากการตรวจหาเชื้อในตัวอย่างที่เก็บจากผู้ป่วยฝีดาษลิงที่เคยพบในอังกฤษ (ตั้งแต่ปี 2018-2021) แต่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างที่ระบาดในปัจจุบัน พบว่า ไวรัสสามารถพบได้ในหลายตัวอย่าง มากน้อยแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละคน



ปริมาณไวรัสที่พบได้มากที่สุดคือ ของเหลวจากตุ่มหนอง หรือ แผลบนผิวหนัง ข้อมูลที่น่าสนใจคือ ผู้ป่วยแทบทุกคนสามารถตรวจไวรัสพบในตัวอย่างที่เก็บมาจากทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งประกอบด้วยน้ำมูก น้ำลาย โดยปริมาณไวรัสมีมากกว่าที่ตรวจพบในกระแสเลือด และในผู้ป่วยบางรายสามารถตรวจเชื้อไวรัสพบได้ในตัวอย่างปัสสาวะด้วยเช่นกัน



ข้อมูลนี้บอกว่า ไวรัสฝีดาษลิงสามารถปลดปล่อยออกมาจากผู้ป่วยได้หลายช่องทาง การสัมผัสโดยตรงกับแผลหรือตุ่มหนองมีความเสี่ยงสูงสุด แต่การรับเชื้อจากน้ำมูกน้ำลาย ทางเลือด หรือทางปัสสาวะในห้องน้ำ ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เป็นข้อมูลให้เราระวังตั้งรับกับไวรัสตัวใหม่นี้นะครับ หน้ากากอนามัยที่กำลังจะถอดกันอาจจะจำเป็นหากฝีดาษลิงเข้ามาใกล้ตัวเรามากขึ้นนะครับ"



ด้าน ซิลเวีย ไบรอันด์ ผู้อำนวยการฝ่ายเตรียมความพร้อมสำหรับอันตรายจากการติดเชื้อทั่วโลกขององค์การอนามัยโลก ออกมาระบุว่า ประเทศต่างๆ ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของฝีดาษลิง และแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับคลังวัคซีนที่มีอยู่ หากวางมาตรการที่เหมาะสมตั้งแต่เวลานี้ เราน่าจะควบคุมมันได้อย่างง่ายดาย



เราไม่รู้ว่าที่เราเห็นคือยอดของภูเขาน้ำแข็งหรือไม่ เราเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้ แต่เรารู้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก เพราะนี่ไม่ใช่โรคที่ประชาชนทั่วไปควรกังวล มันไม่ใช่โควิดหรือโรคอื่นๆ ที่แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว



สำหรับองค์การอนามัยโลก สิ่งที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญเป็นหลักในขณะนี้ คือพยายามจำกัดการแพร่ระบาดในประเทศที่โรคดังกล่าวไม่ใช่โรคเฉพาะถิ่น มาตรการที่จำเป็นรวมถึงการตรวจหาเชื้อแต่เนิ่นๆ การกักบริเวณเมื่อเจอผู้ติดเชื้อ และการติดตามตรวจสอบเส้นทางของผู้ที่ได้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ



ประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลกควรแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับสต็อกวัคซีนไข้ทรพิษรุ่นแรกที่สามารถใช้กับโรคฝีดาษลิงได้ เพราะขณะนี้เราไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับจำนวนวัคซีนดังกล่าวที่มีอยู่ทั่วโลก จึงขอให้ประเทศต่างๆ แจ้งข้อมูลให้ทราบ เพราะวัคซีนมีอยู่อย่างจำกัด



เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนจำนวนมากให้กับคนทั่วไปเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของฝีดาษลิง แต่แนะนำให้มีการฉีดวัคซีนโดยกำหนดเป้าหมายเฉพาะผู้ที่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อเท่านั้น



ล่าสุดมีรายงานพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงรายแรกในทวีปลาตินอเมริกาแล้วในประเทศอาร์เจนตินา โดยกระทรวงสาธารณสุขอาร์เจนตินากล่าวว่า ผู้ป่วยมีสุขภาพดี ขณะที่ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยก็อยู่ภายใต้การให้การดูแลแล้ว และยังไม่มีอาการใดๆ ให้เห็น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/d42S8wKuuzw