ต่างประเทศ

พบผู้ติดเชื้อ 'โอมิครอน' 110 ประเทศแล้ว - สหรัฐฯจ่อยกเลิกแบนนักเดินทาง 8 ชาติแอฟริกา

โดย passamon_a

25 ธ.ค. 2564

51 views

องค์การอนามัยโลก เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด โอมิครอน 110 ประเทศทั่วโลกแล้ว ขณะที่สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในยุโรป รุนแรงขึ้น เมื่อวานนี้สหราชอาณาจักร อิตาลี และฝรั่งเศส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันมากสุดเป็นประวัติการณ์


องค์การอนามัยโลก แถลงเมื่อวานนี้ว่า จากข้อมูลล่าสุดของวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา พบการระบาดของโอมิครอน แล้วใน 110 ประเทศทั่วโลก ในทุกภูมิภาค และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลต้า โดยในช่วงสองถึงสามวันที่ผ่านมา โอมิครอนระบาดเร็วกว่าเดลต้าถึง 2 เท่าตัว


ขณะที่สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในยุโรป รุนแรงมากขึ้นทุกขณะ เมื่อวานนี้ สหราชอาณาจักร อิตาลี และฝรั่งเศส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันมากสุดเป็นประวัติการณ์ โดยที่สหราชอาณาจักร เมื่อวานนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง และผู้ติดเชื้อรายใหม่ทะลุ 1 แสนคน เป็นวันที่ 3 แล้ว


24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 122,186 คน สองวันที่ผ่านมา พบ 119,517 คน และสามวันที่ผ่านมา พบ 108,509 คน โดยเฉพาะที่กรุงลอนดอน จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากผลการจำลองตัวเลขรายวันที่จัดทำโดยสำนักสถิติแห่งชาติ พบว่าช่วงสัปดาห์นี้ในทุก ๆ 10 คน จะพบผู้ติดเชื้อโควิดในลอนดอน 1 คน เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมาในทุก ๆ 20 คนถึงจะพบ 1 คน


ขณะที่ฝรั่งเศส เมื่อวานนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด รายใหม่รายวันเกือบ 1 แสนคน มากสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน โดยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 94,124 คน ส่วนจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเมื่อวานนี้ มากสุดในรอบ 7 เดือน คือ 16,200 คน ส่วนอิตาลี เมื่อวานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 50,599 คน ทำสถิติสูงสุด


ตอนนี้ยุโรปหลายประเทศคุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดมากขึ้น ล่าสุด อิตาลี สเปน และกรีซ กลับมาใช้มาตรการบังคับให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากเมื่อออกมานอกอาคารแล้ว ขณะที่แคว้นกาตาลุญญ่า ของสเปน ประกาศเคอร์ฟิวตอนกลางคืน ตั้งแต่ 1 นาฬิกาถึง 6 นาฬิกา ส่วนเนเธอร์แลนด์คุมเข้มมาตรการล็อกดาวน์มากขึ้น


ขณะที่ สหรัฐอเมริกา เตรียมยกเลิกคำสั่งห้ามนักเดินทางจาก 8 ประเทศในแอฟริกาตอนใต้ เข้าประเทศแล้ว โดยจะเริ่มยกเลิกในสิ้นปี หรือ นิวเยียร์ส อีฟ (New Year’s Eve)


สหรัฐฯให้เหตุผลในการยกคำสั่งห้ามดังกล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องควบคุมอีกต่อไป ในขณะที่ตอนนี้เชื้อโควิด โอมิครอน แพร่ระบาดไปทั่วสหรัฐฯแล้ว


สหรัฐฯย้ำว่า เหตุผลสำคัญที่ต้องใช้คำสั่งดังกล่าว เพื่อต้องการเวลาในการทำความเข้าใจและเรียนรู้โควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งตอนนี้ได้รับข้อมูลที่เพียงพอแล้วว่า วัคซีนที่มีอยู่สามารถต้านทานโอมิครอนได้ โดยเฉพาะวัคซีนเข็มกระตุ้น


ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯเริ่มใช้มาตรการห้ามนักเดินทางจาก 8 ประเทศแอฟริกาตอนใต้ ได้แก่แอฟริกาใต้, บอตสวาน่า, ซิมบับเว, โมซัมบิค, นามิเบีย, เลโซโท, เอสวาตินี่ และมาลาวี เข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำหรับคำสั่งยกเลิกการห้ามการเดินทางนี้จะเริ่มมีผลในวันสิ้นปี ซึ่งก็คือวันที่ 31 ธันวาคมที่จะถึงนี้


ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แคนาดา เพิ่งประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามนักเดินทางต่างชาติจาก 10 ประเทศในแอฟริกาเข้าประเทศเช่นกัน ซึ่งแคนาดาก็จะคล้าย ๆ กับสหรัฐฯ เนื่องจากพบการระบาดโอมิครอนในประเทศแล้ว คำสั่งห้ามการเดินทางจึงไม่มีความจำเป็นแล้ว


แต่ทั้งแคนาดาและสหรัฐฯก็จะไปคุมเข้มเรื่องการตรวจโควิดแทน คือนักเดินทางที่เข้ามาในประเทศจะต้องมีผลตรวจโควิดเป็นลบ ภายใน 1 วันก่อนขึ้นเครื่อง


คุณอาจสนใจ