หญิงมะกันวัย 53 ปี กลับสู่ครอบครัวที่แท้จริงอีกครั้ง หลังพลัดพรากจากแม่ไปนานกว่า 51 ปี คาดถูกพี่เลี้ยงลักพาตัวตั้งแต่ 2 ขวบ

เรื่องราวของหญิงชาวอเมริกันวัย 53 ปี ซึ่งพลัดพรากจากครอบครัวมานานถึง 51 ปี หลังจากที่เธอถูกลักพาตัวไป เมื่อตอนอายุได้เพียง 2 ขวบ แต่ด้วยการตรวจ DNA ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทพันธุกรรมชื่อดังในสหรัฐฯ ทำให้เธอและครอบครัวได้กลับมาพบกันอีกครั้ง

เมลิสซา ไฮสมิธ (Melissa Highsmith) ซึ่งตอนนี้อายุ 53 ปีแล้ว (หญิงใส่แว่นดำ) ถูกพี่เลี้ยงลักพาตัวไปจากบ้านที่เมืองฟอร์ท เวิร์ธ (Fort Worth) รัฐเท็กซัส เมื่อปี พ.ศ.2514 ซึ่งตอนนั้นเธออายุได้ 1 ปี 10 เดือน และปัจจุบันเธอใช้ชื่อว่า เมลานี วอลเดน (Melanie Walden)

ครอบครัวของเมลิสซา บอกว่า เมลิสซา หายตัวไปตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2514 ซึ่งตอนนั้น "อัลต้า อัลปันเทนโก" (Alta Apantenco) แม่ของเมลิสซา (หญิงผมสีบลอนด์) ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงให้มาดูแลเมลิสซา

อัลปันเทนโกประกาศหาพี่เลี้ยงผ่านหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ทำให้ไม่ได้ตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด และในที่สุดก็ได้พี่เลี้ยงมา และพี่เลี้ยงคนนี้ เป็นผู้ต้องสงสัยว่า เป็นคนลักพาตัวเมลิสซา ลูกของเธอไป อัลปันเทนโก และสามีไปแจ้งความกับตำรวจ และค้นหาลูกนานหลายสิบปี แต่ก็ไม่เจอ

แม้จะต้องทนทุกข์ทรมานกับการตามหาลูก แต่อัลปันเทนโก ก็ไม่ละความพยายาม จนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เธอและครอบครัวตัดสินใจเปิดเพจเฟซบุ๊ค ทีมีชื่อว่า "Finding Melissa" ในที่สุดสิ่งที่อัลปันเทนโก รอคอยก็เป็นจริง เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ผลตรวจดีเอ็นเอ ผ่าน "23AndMe" ซึ่งเป็นเว็บไซต์วิจัยด้านพันธุกรรม ที่บันทึกข้อมูลดีเอ็นเอ ของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ปรากฏว่า ดีเอ็นเอของสมาชิกในครอบครัวที่แท้จริง ไปจับคู่เจอกับเมลิสซา หลังจากนั้นทางครอบครัวก็ติดต่อเมลิสซา ทำให้เมลิสซาได้รับรู้เรื่องราวตัวเอง

อัลปันเทนโก บอกว่านี่เป็นของขวัญวันคริสต์มาสที่วิเศษสุด

ส่วนเรื่องคดีความจริงๆแล้วหมดอายุความไปแล้ว แต่ตำรวจก็ยืนยันจะสอบสวนเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง รายงานไม่ได้ระบุว่า เมลิสซา ไปอยู่กับใคร หลังจากที่ถูกลักพาตัวไป และไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดครอบครัวที่่นำเธอไปเลี้ยงดู

ขณะที่ตัวเมลิสซา บอกว่า เธอถูกทำร้ายมาตั้งแต่เด็ก และหนีออกจากบ้านมาตอนอายุ 15 ปี ตอนนั้นเธอยังไม่รู้ว่า เธอถูกลักพาตัว เธอเพิ่งมารู้เรื่องราวของตัวเองเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่มีคนมาบอกเธอว่า ครอบครัวเธอกำลังตามหาเธออยู่ หลังจากที่ผลดีเอ็นเอ ของเธอไปตรงกับบุคคลในครอบครัวที่แท้จริง รายงานยังระบุด้วยว่า เธอจะกลับมาใช้ชี่อเมลิสซา ซึ่งเป็นชื่อที่ครอบครัวตั้งให้ด้วย ซึ่งอย่างที่บอกไว้ในตอนแรกว่า หลังจากที่เธอถูกลักพาตัวไป เธอมีชื่อว่า "เมลานี วอลเดน"