เรฟลอน ยื่นศาลสหรัฐฯ ขอล้มละลาย หลังมีหนี้ท่วมถึง 3.3 พันล้านดอลลาร์

เรฟลอน บริษัทเครื่องสำอางของสหรัฐฯ ที่ดำเนินกิจการมา 90 ปี ยื่นขอล้มละลาย ตามกฎหมายมาตรา 11 เนื่องจากปัญหาหนี้สินรุมเร้า รวมไปถึงปัญหาซัพพลาย เชน (supply chain) และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น



จากการยื่นล้มละลายเพื่อพิทักษ์ทรัพย์ของเรฟลอน ครั้งนี้จะทำให้เรฟลอนจะได้รับเงิน 575 ล้านดอลลาร์จากเจ้าหนี้ที่มีอยู่ และจะทำให้เรฟลอน สามารถนำเงินทุนก้อนนี้มาใช้หมุนเวียนในการดำเนินการกิจการต่อไป



สำหรับบริษัทในเครือที่ดำเนินงานในต่างประเทศของเรฟลอน ไม่รวมอยู่ในกระบวนการนี้ ยกเว้นในแคนาดา และสหราชอาณาจักร



การยื่นล้มละลายดังกล่าวยื่นต่อศาลล้มละลายในสหรัฐฯทางใต้ของนิวยอร์ก โดยทันทีที่มีการประกาศยื่นล้มละลาย หุ้นเรฟลอนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ร่วง 13 เปอร์เซนต์



เรฟลอน ก่อตั้งขึ้นในปี 1932 โดยพี่น้องชาร์ลส์ (Charles) และ โจเฟซ เรฟลอน (Joseph Revson) และ ชาร์ลส์ แลชแมน (Charles Lachman) โดยจากเริ่มขายยาทาเล็บก่อน หลังจากนั้นไม่นาน กลางทศวรรษ 1950 ได้กลายเป็นแบรนด์ระดับสากล



ปี 1985 บริษัท แม็คแอนดรูว์ส แอนด์ ฟอร์บส์ (MacAndrews & Forbes) ซึ่งเป็นของ โรนัลด์ เพเรลแมน (Ronald Perelman) นักธุรกิจมหาเศรษฐี ได้เข้ามาซื้อกิจการ จนปัจจุบันนี้ เรฟลอน จำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกว่า 150 ประเทศ



เมื่อต้นปีนี้เรฟลอน เคยบอกว่า กำลังเผชิญกับปัญหาสภาพคล่องที่เกิดจากวิกฤตเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน หรือ ซัพพลาย เชน และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น



ปัจจุบันนี้เรฟลอนต้องเผชิญกับคู่แข่งทางการค้าแบรนด์ใหม่ๆของคนดัง อย่างเช่น ไคลี่ คอสเมติกส์ (Kylie Cosmetics) ของ ไคลี เจนเนอร์ ( Kylie Jenner) และเฟนตี้ บิวตี้ ( Fenty Beauty) ของรีแอนนา (Rihanna)



ทั้งนี้สิ้นดือนมีนาคมที่ผ่านมา เรฟลอนมีหนี้ระยะยาวถึง 3.3 พันล้านดอลลาร์