ผู้นำยูเครนเตือน รัสเซียมีแผนบุกประเทศอื่นด้วย

สื่อทางการรัสเซียรายงานโดยอ้างคำกล่าวของพลตรีรัสตัม มินเนคาเยฟ (Rustam Minnekayev) ผู้บัญชาการอาวุโสกองทัพรัสเซียที่เผยว่า รัสเซียมีเป้าหมายที่จะเข้าควบคุมพื้นที่ทั้งทางใต้ และตะวันออก คือ ภูมิภาคดอนบาส โดยย้ำว่า การยึดครองพื้นที่ทางใต้ของยูเครน จะทำให้รัสเซียสามารถเชื่อมต่อไครเมีย ที่รัสเซียผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งไปตั้งแต่ปี 2014 กับดินแดนทางตะวันออกของยูเครนได้



-นอกจากนี้การยึดครองพื้นที่ทางใต้ของยูเครนจะทำให้รัสเซียสามารถส่งความช่วยเหลือไปให้กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภูมิภาคทรานส์นีสเตรีย (Transnistria) ในประเทศมอลโดว่า (Moldova) ได้ด้วย




ทรานส์นีสเตรีย เป็น เป็นภูมิภาคแห่งหนึ่งของประเทศมอลโดวา ติดพรมแดนยูเครน ประชาชนที่นี่พูดภาษารัสเซีย ปัจจุบันบริเวณนี้ถูกปกครองโดย สาธารณรัฐมอลเดเวียพรีดเนสโตรวี (Pridnestrovian Moldavian Republic ) ซึ่งมีอยู่เพียงสามประเทศเท่านั้นที่ให้การรับรองเอกราช ได้แก่ อับฮาเซีย, เซาท์ออสซีเชีย และสาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัค ปัจจุบันนี้นี้มีทหารรัสเซียประจำการในทรานส์นีสเตรีย ประมาณ 1 พัน 500 นาย



รัฐบาลมอลโดว่าถือว่า ทรานส์นีสเตรียอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยและยังคงเป็นส่วนหนึ่งของตน โดยมีสถานะเป็นสาธารณรัฐปกครองตนเอง ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมกันในประเทศอดีตสหภาพโซเวียต แม้ว่ารัฐบาลมอลโดว่า จะไม่มีอำนาจปกครองในดินแดนนี้แล้วก็ตาม



ขณะที่เจ้าหน้าที่อียู เปิดเผยกับรอยเตอร์สว่า ในอีกสองสามวันนี้กองกำลังรัสเซียน่าจะระดมโจมตีทั้งพื้นที่ตะวันออกและชายฝั่งทางใต้ของยูเครน และว่า ในอีกสองถึงสามสัปดาห์ข้างหน้า จะได้เห็นจุดแตกหักของสงคราม ซึ่งตอนนี้รัฐบาลมอลโดว่า ได้ยื่นหนังสือต่อทูตรัสเซียในมอลโดว่า ถึงความวิตกกังวลในเรื่องนี้ และย้ำว่า มอลโดว่า เป็นรัฐที่มีความเป็นกลาง ซึ่งหลักการนี้ืั้ของนานาชาติ และรัสเซียควรต้องยอมรับและตระหนัก




ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ ซาเลนสกี้ ผู้นำยูเครน กล่าวว่า รัสเซียจะไม่ได้บุกแค่ยูเครนประเทศเดียว นี่เป็นแค่การเริ่มต้น เป้าหมายของรัสเซียคือ บุกไปอีกหลายประเทศ




ด้านนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนอินเดีย ได้แถลงเมื่อวานนี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่สงครามในยูเครนจะยืดเยื้อไปจนถึงสิ้นปีหน้า เนื่องจากขณะนี้รัสเซียใกล้จะยึดสะพานเชื่อมแผ่นดินในเมืองมาริอูโปล ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนได้แล้ว



อังกฤษยังได้แสดงออกถึงการสนับสนุนรัฐบาลยูเครนอย่างต่อเนื่อง และว่า ในสัปดาห์หน้าอังกฤษจะเปิดสถานทูตในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนตามปกติด้วย