นทท.-จนท. กว่า 1,000 ติดในอุทยานฯ รัฐแคลิฟอร์เนีย หลังน้ำท่วมฉับพลัน

เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันภายในอุทยานแห่งชาติเดท วัลลีย์ (Death Valley) รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ถนนหลายพังเสียหายและจมอยู่ใต้น้ำ นักท่องเที่ยวติดค้างอยู่ข้างใน ไม่สามารถเดินทางออกมาได้นับพัน



เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งเข้าไปค้นหานักท่องเที่ยว และ ทำความสะอาดท้องถนน ภายในอุทยานแห่งชาติ เดท วัลลีย์ หลังจากเกิดฝนถล่ม จนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลให้ถนนหลายสายของอุทยานพังเสียหาย



นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า มีรถยนต์ของนักท่องเที่ยวที่จอดอยู่ภายในลานจอดรถ ของโรงแรมอินน์ อิน เดท วัลลีย์ ถูกดินโคลนสูงหลายฟุตฝังกลบ มากกว่า 60 คัน



จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานของผู้บาดเจ็บ แต่ทางอุทยานระบุว่า มีนักท่องเที่ยวประมาณ 500 คน และ เจ้าหน้าที่อุทยานอีก 500 คน ไม่สามารถเดินทางออกมาจากอุทยานได้ เพราะถนนทั้งขาเข้าและออกถูกสั่งปิด



นอกจากนี้ ทางอุทยานยังได้สั่งปิดบางพื้นที่ของอุทยานเป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย และคาดว่าจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ในวันพรุ่งนี้



ทางอุทยานเผยว่า ฝนที่ตกลงมานั้นมีปริมาณเกือบสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยสามารถวัดปริมาณน้ำฝนที่บริเวณย่าน เฟอร์เนซ ครีก (Furnace Creek) ได้ 1.46 นิ้ว จากสถิติสูงสุดที่ 1.47 นิ้ว เมื่อปี 1988



ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติ เดท วัลลีย์ (Death Valley) เป็นพื้นที่ที่แห้งแล้งที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปี เพียงแค่ 2.2 นิ้วเท่านั้น และ มีอุณหภูมิที่สูงที่สุดที่เคยบันทึกไว้ คือ 56.7 องศาเซลเซียส