จีนประท้วงให้เลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ลามหลายเมือง ตะโกนไล่ 'สี จิ้นผิง'

สถานการณ์การประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโควิดของรัฐบาลจีน เริ่มลุกลามไปหลายเมืองแล้ว โดยผู้ประท้วงมีการตะโกนขับไล่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ด้วย

ที่มหานครเซี่ยงไฮ้

เป็นจุดที่มีการประท้วงใหญ่ที่สุด ตำรวจได้เข้าจับกุมผู้ประท้วง หลังจากที่สถานการณ์บานปลาย จากเดิมที่ผู้ประท้วงจุดเทียนไว้อาลัยแด่เหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ในเมืองอุรุมชี เท่านั้น

แต่หลังจากนั้น ผู้ประท้วงได้ตะโกนต่อต้านต่อต้านนโยบายโควิดต้องเป็นศูนย์ และตะโกนขับไล่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ด้วย นับเป็นการประท้วงดำเนินมาเป็นวันที่ 3 แล้ว

ชาวเซี่ยงไฮ้ได้รวมตัวกันตั้งแต่วันเสาร์ ที่ถนนอู๋หลู่มู่ฉี (อุรุมชี ในภาษาจีนกลาง) เพื่อจุดเทียนไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ ในเมืองเอกของซินเจียง เขตปกครองตนเองเทียบเท่ามณฑล แต่ครั้นเวลาล่วงเข้าช่วงก่อนรุ่งสางวันอาทิตย์  การชุมนุมรำลึกก็บานปลายเป็นการประท้วง

ฝูงชนพากันชูกระดาษเปล่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การประท้วงต่อต้านการเซ็นเซอร์ของรัฐบาล ต่อหน้าตำรวจจำนวนมากที่เฝ้าควบคุมสถานการณ์ ต่อมา ผู้ประท้วงตะโกนเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในอุรุมชี ซินเจียง และทั่วประเทศ และมีคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งในหมู่ผู้ประท้วง ตะโกนขับไล่ประธานธิบดี สี จิ้นผิง และพรรคคอมมิวนิสต์ จนตำรวจเข้าสลายการชุมนุมโดยใช้สเปรย์พริกไทย

ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นของคลื่นการประท้วงในจีนระลอกนี้ เกิดจากเหตุไฟไหม้ในอาคารพักอาศัยที่เป็นตึกสูงแห่งหนึ่งของเมืองอุรุมชี เมื่อวันพฤหัสบดี สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และคืนวันต่อมา ฝูงชนออกมาชุมนุมบนถนน เรียกร้องให้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์

โดยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมากคาดว่า ผู้เสียชีวิตในเหตุไฟไหม้นี้เพราะหนีออกมาไม่ทัน เนื่องจากตึกดังกล่าวถูกล็อกดาวน์บางส่วน ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะปฏิเสธก็ตาม

ในกรุงปักกิ่ง

มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มเล็กๆ หลายแห่ง เพื่อแสดงความไว้อาลัยแก่เหยื่อผู้เสียชีวิตเหตุไฟไหม้ที่อุรุมชี ขณะที่มีรายงานว่า นักศึกษาในมหาวิทยาลัยจำนวนหนึ่งทั่วประเทศจีน มีการชุมนุมเดินขบวน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยที่ มหาวิทยาลัยชิงหัว ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งของจีน รวมทั้ง ประธานธิบดี สี จิ้นผิง ก็เป็นศิษย์เก่าของที่นี่ด้วย มีผู้คนหลายสิบคนชุมนุมอย่างสงบเพื่อประท้วงมาตรการสู้โควิดอย่างเข้มงวด โดยระหว่างนั้นพวกเขาได้กล่าวปราศรัยและร้องเพลงชาติ

ไม่เฉพาะแต่ที่ เซี่ยงไฮ้ และ ปักกิ่ง ยังมีวิดีโอบนโซเชียลมีเดียที่ ถ่ายจากเหตุการณ์การประท้วงในเมืองอื่นๆ อย่าง เฉิงตู ฉงชิ่ง หลานโจวอู่ฮั่น หนานจิง กว่างโจว รวมทั้ง อุรุมชี และ คอร์ลา ในซินเจียง

กระแสคลื่นอารยะขัดขืนระลอกนี้ ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนบนจีนแผ่นดินใหญ่ นับจากที่ สี จิ้นผิง ขึ้นสู่อำนาจเมื่อทศวรรษที่แล้ว