ต่างประเทศ
รัสเซียถล่มยูเครนอย่างหนัก ด้วยขีปนาวุธ 83 ลูก ดับแล้วอย่างน้อย 11 ศพ
โดย nattachat_c
11 ต.ค. 2565
328 views
รัสเซียรัวยิงขีปนาวุธนำวิถี 83 ลูก โจมตีหลายพื้นที่ทั่วประเทศยูเครน รวมถึงกรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศด้วย เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 ตุลาคม 2565 ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้พลเรือนถูกสังหารชีวิต และระบบโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนถูกทำลายพินาศย่อยยับ
การถล่มอย่างหนักครั้งนี้ เป็นการแก้แค้นเอาคืนของรัสเซีย หลังเกิดเหตุระเบิดสะพานไครเมีย ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมสำคัญระหว่างดินแดนไครเมียที่รัสเซียผนวกเป็นของตนเองในปี 2014 กับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซีย เมื่อวันเสาร์ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ชี้ว่าเป็นการก่อการร้ายของยูเครน
มีภาพเหตุการณ์นาทีที่ขีปนาวุธลูกหนึ่ง พุ่งเข้าใส่ใกล้กับสะพานกระจก แต่โชคดีที่ไม่โดนตรงๆ ทำให้สะพานกระจกดังกล่าวยังคงยืนหยัดอยู่ได้
รายงานระบุว่า สถานการณ์ในกรุงเคียฟ เต็มไปด้วยความโกลาหล รถหลายคันมีไฟลุกท่วมกลางสี่แยก สวนสาธารณะและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญใจกลางเมือง ถูกทำลายเสียหายจากการถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซีย
มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีแล้วอย่างน้อย 11 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 ราย รถหลายคันไฟลุกท่วม ขณะที่สนามเด็กเล่นใจกลางกรุงเคียฟ ปรากฏหลุมขนาดใหญ่จากการถูกยิงโจมตีด้วยขีปนาวุธ
นอกจากนี้ ยังมีรายงานเกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายจุด เช่น ...
- เมืองลวิฟ เมืองเทอร์โนปิล และเมืองซีโตมีร์ ทางตะวันตก
- เมืองดนิโปรและเมืองเครเมนชุก ทางตอนกลาง
- เมืองซาปอริซเซีย ทางตอนใต้
- เมืองคาร์คีฟ ทางตะวันออก
ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกมากล่าวในทันทีว่า การโจมตีในช่วงเวลาเร่งด่วนที่เกิดขึ้น ดูเหมือนเป็นความจงใจที่จะสังหารผู้คน ผู้นำยูเครนชี้ว่า การโจมตีดังกล่าวมี 2 เป้าหมายหลัก คือ โครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน และผู้คน
ทางด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้แถลงว่า ขีปนาวุธที่ยิงออกไปนั้นเข้าเป้าทุกลูก
ทางด้าน โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวว่า รู้สึกช็อกมากกับโจมตีกรุงเคียฟและเมืองอื่นๆ ในยูเครน ของรัสเซีย การกระทำเช่นนี้ไม่มีที่ยืนในศตวรรษที่ 21 ตนขอประณามการกระทำนี้อย่างแข็งกร้าวที่สุด เรายืนหยัดเคียงข้างยูเครน นอกจากนี้ ความสนับสนุนทางทหารเพิ่มเติมจากอียูแก่ยูเครนยังกำลังดำเนินไป
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศของโปแลนด์ ก็ประณามเช่นกันว่า เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนและเป็นอาชญากรรมสงคราม รัสเซียไม่สามารถชนะสงครามนี้ได้ และโปแลนด์ขอยืนหยัดสนับสนุนยูเครน