ปูตินกล่าวสุนทรพจน์วันแห่งชัยชนะ อัดนาโตขยายอิทธิพล จนเกิดสงครามยูเครน

เมื่อวานนี้ รัสเซียได้ฉลองวันแห่งชัยชนะ หรือวิคทอรี เดย์  9 พฤษภาคม เพื่อรำลึกถึงชัยชนะของอดีตสหภาพโซเวียต ที่มีต่อกองทัพนาซี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

โดย ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้กล่าวสุนทรพจน์ ต่อหน้าเหล่าทหาร รถถัง ขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีป และ 'เครื่องบินบัญชาการวันสิ้นโลก' ที่ร่วมในขบวนพาเหรดเฉลิมฉลอง ที่จัดขึ้นบริเวณจัตุรัสแดง ในกรุงมอสโก

เนื้อหาสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีปูติน ได้ถูกชาวโลกจดจ้องรอฟังเป็นพิเศษมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยมีการคาดการณ์ต่างๆ นาๆ ก่อนหน้านี้ว่า รัสเซียจะประกาศชัยชนะเหนือยูเครน หรือไม่ก็จะประกาศปฏิบัติการที่ดุเดือดขึ้น

แต่ทว่า ประธานาธิบดีปูติน ไม่ได้มีการประกาศในประเด็นตามที่คาดการณ์ดังกล่าว โดยได้กล่าวยกย่องกำลังทหารและอาสาสมัครรัสเซีย ที่เข้าไปในภาคตะวันออกของยูเครนว่า เป็นการ 'ปกป้องแผ่นดินแม่' และชี้ว่าการรุกรานของรัฐบาลรัสเซียในครั้งนี้ ถือเป็นการชิงเคลื่อนไหวก่อน เพื่อปกป้องการรุกรานจากชาติตะวันตก

ผู้นำรัสเซียได้เรียก 'ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร' ในภูมิภาคดอนบาส เป็นเรื่องจำเป็น และถูกยั่วยุโดยชาติตะวันตก  และว่า รัสเซียกำลังต่อสู้เพื่อความมั่นค งและรู้สึกว่ารัสเซียกำลังอยู่ภายใต้การคุกคาม

ซึ่งปูตินยังเชื่อว่า คาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียผนวกเข้ามาเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย ตั้งแต่ปี 2557 ถูกโจมตีโดยกองกำลังนาโต

ประธานาธิบดีปูติน กล่าวด้วยว่า การขยายอิทธิพลของนาโตมาทางพรมแดนตะวันออก เป็น 'ภัยคุกคามที่ยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง' และเป็นเหตุผลที่ส่งกำลังทหารบุกยูเครน

ทั้งนี้ ขบวนพาเหรดเฉลิมฉลองในวันแห่งชัยชนะนี้ มีขึ้นใน 28 เมืองของรัสเซีย โดยมีทหาร เจ้าหน้าที่ ประชาชน ร่วมในขบวนพาเหรดและในพิธี รวมทั้งหมดถึง 65,000 คน, ยุทโธปกรณ์หนักทางทหาร 2,400 ชิ้น และเครื่องบินรบกว่า 400 ลำ

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า รัสเซียได้เปิดปฏิบัติการโจมตีในภาคตะวันออกของยูเครนอย่างหนัก โดยเฉพาะที่ภูมิภาคดอนบาส  ไม่ว่าจะที่เมืองรูบิซเน และเมืองบิโลโรนิฟกา รวมไปถึงเมืองโอเดซา ซึ่งมีการระดมยิงขีปนาวุธอย่างหนักหน่วง