อินโดนีเซีย สั่งห้ามส่งออก 'น้ำมันปาล์ม' หวั่นกระทบราคาอาหารทั่วโลก

เดอะ การ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานว่า อินโดนีเซียได้ประกาศระงับส่งออกน้ำมันปาล์ม ซึ่งจะป็นการซ้ำเติมวิกฤตราคาอาหารโลก ที่กำลังปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อบริโภคทั่วโลก กำลังประสบกับภาวะกดดันจากภัยธรรมชาติ และสงครามในยูเครนอยู่แล้ว

ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ประกาศห้ามการส่งออกน้ำมันปาล์มอย่างไม่มีกำหนด เพื่อแก้ปัญหาอาหาร และสินค้าราคาแพงภายในประเทศ ทำให้เกิดความกังวลว่า การระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มในครั้งนี้ จะส่งผลกระทบต่อราคาอาหารโลก เนื่องจากน้ำมันปาล์ม ถูกนำไปใช้ทั้งในการผลิตอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

นอกจากนั้น อินโดนีเซียยังระบุว่า ปริมาณน้ำมันสำหรับบริโภคชนิดอื่นๆ ในประเทศก็ลดลงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากสงครามรัสเซียยูเครน และปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

ผู้เชี่ยวชาญมองว่าราคาน้ำมันสำหรับบริโภคต่างๆ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน  และน้ำมันแรพซีด (น้ำมันคาโนลา) จะมีราคาแพงขึ้น และทุกประเทศจะได้รับผลกระทบจากการที่อินโดนีเซียแบนการส่งออกน้ำมันปาล์มในครั้งนี้

การระงับส่งออกนำมันปาล์มของอินโดนีเซีย เกิดขึ้นขณะที่ ประเทศผู้ผลิตน้ำมันต้องอยู่ภายใต้ภาวะกดดันจากหลายปัจจัย เช่น ปัญหาภัยแล้งที่กำลังกระทบเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองในแอฟริกาใต้ ส่วนที่แคนาดาผู้ผลิตน้ำมันแรพซีดเผชิญกับภัยธรรมชาติ

ทำให้ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ขณะนี้ ยังไม่มีประเทศใดสามารถทดแทนน้ำมันปาล์มจากอินโดนีเซียได้  และทุกประเทศจะได้รับผลกระทบ