'ปูติน' ออกโรงแถลง ทหารยูเครนใช้พลเรือนเป็นโล่ กันการโจมตี

ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ออกโรงแถลงประนามฝ่ายทหารยูเครนว่า กำลังใช้พลเรือนเป็นโล่ป้องกันตัวเอง จากการโจมตีของรัสเซีย โดยเขาได้ปฏิเสธว่า กองทัพรัสเซียไม่ได้มุ่งเป้าโจมตีไปที่พลเรือน แต่เป็นฝ่ายยูเครนเอง ที่ใช้ประชาชนเป็นตัวประกัน และทหารยูเครน มักจะซ่อนอาวุธไว้ในพื้นที่พลเรือนง

นอกจากนั้น ผู้นำรัสเซียยังประกาศกร้าวด้วยว่า ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนนั้น เป็นไปตามแผนการ และขั้นตอนที่กำหนดเอาไว้ ซึ่งสวนทางกับการรายงานของสื่อตะวันตกที่มองว่า ปฏิบัติการของรัสเซียในยูเครนนั้นไม่เป็นไปตามแผน แม้ว่ารัสเซียจะเดินหน้าถลมอย่างหนักก็ตาม เพราะถูกยูเครนต้านทานเอาไว้อย่างหนัก โดยเฉพาะที่กรุงเคียฟ

ถ้อยแถลงของผู้นำรัสเซียครั้งนี้ มีขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจากที่เปิดปฏิบัติการถล่มยูเครน เมื่อ 8 วันก่อน ซึ่งรัสเซียสามารถที่จะรุกคืบเข้าไปในยูเครน แต่ทว่าก็ยังไม่สามารถบุกยึดกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนได้ โดยมีเมืองเคอร์ซอน เพียง 1 เมืองเท่านั้น ที่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียโดยเบ็ดเสร็จแล้ว

ขณะเดียวกัน ทางด้าน นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย แถลงข่าวจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ตอบโต้คำกล่าวของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐที่ระบุก่อนหน้านี้ว่า ทางเลือกเดียวของรัสเซียนอกเหนือจากมาตรการคว่ำบาตร ก็คือสงครามโลกครั้งที่ 3 โดยลาฟลอฟ ระบุว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 นั้นจะเป็นไปได้อย่างเดียวเท่านั้นก็คือ 'สงครามนิวเคลียร์'

อย่างไรก็ตาม ลาฟรอฟ ระบุว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่อยู่ในหัวของนักการเมืองตะวันตก แต่ไม่ได้อยู่ในหัวของประชาชนชาวรัสเซีย และหากมีการทำสงครามกับรัสเซีย เมื่อนั้นคนที่วางแผนเรื่องนี้จะต้องคิดถึงมัน และในความเห็นของเขานั้น แผนดังกล่าวนั้นได้ถูกคิดขึ้นแล้ว

ในการแถลงดังกล่าว ลาฟรอฟยังคงยืนยันว่า รัฐบาลยูเครนนั้นเป็นรัฐบาล 'นีโอ-นาซี' และอ้างว่ามีกลุ่มแก๊งอาชญากรรมที่เข้าก่อเหตุปล้นสะดมในหลายเมืองของยูเครน รวมไปถึงเมืองมาริอูปอลด้วย และกล่าวหาว่ารัฐบาลยูเครนพยายามใช้กำแพงมนุษย์ นอกจากนี้ ยังกล่าวหาว่ากองกำลังนาโตกำลังพยายามเสริมความมั่นคงภายใต้ความสูญเสียของรัสเซีย และเปรียบเทียบสหรัฐอเมริกากับนโปเลียน และฮิตเลอร์ ด้วย