กลุ่มสายการบิน-การท่องเที่ยวสหรัฐฯ กดดันรัฐบาล ยกเลิกกฎตรวจโควิดก่อนเดินทาง

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า กลุ่มสายการบินยักษ์ใหญ่ พร้อมกับสมาคมภาคธุรกิจและการเดินทางท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกา ร่วมลงนามในหนังสือเรียกร้อง ให้ทำเนียบขาวยุติการบังคับใช้กฎ ให้ผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้ว ต้องแสดงผลตรวจโควิดก่อนออกเดินทาง

โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า จากการสำรวจผู้โดยสารทางอากาศทั่วโลก พบว่าการตรวจเชื้อก่อนออกเดินทาง เป็นตัวแปรสำคัญ ในการตัดสินใจไม่เดินทางไปต่างประเทศ เพราะพวกเขาไม่ต้องการเสี่ยงที่จะติดอยู่ในต่างประเทศ หากตรวจพบว่าติดเชื้อ

เนื้อความในหนังสือดังกล่าวยังระบุว่า ในสหรัฐฯ มีประชาชนติดเชื้อโควิดแล้วมากกว่า 74.3 ล้านคน นั่นหมายความว่า อย่างน้อย 22% ของประชากรในสหรัฐที่ติดโควิด แสดงให้เห็นว่าโรคโควิดได้แพร่ไปทั่วสหรัฐฯ อยู่แล้ว และความพยายามที่จะควบคุมการนำเข้าโรคโควิดผ่านการสัญจรทางอากาศ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน จึงไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงนี้ได้  

ในหนังสือเรียกร้อง ยังอ้างถึงสหภาพยุโรปที่ได้แนะนำให้ประเทศต่างๆ ผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดด้านการเดินทางภายในยุโรปแล้ว ขณะที่อังกฤษเองก็กำลังจะยกเลิกกฎ ให้นักเดินทางที่ฉีดวัคซีนแล้ว ตรวจหาเชื้อก่อนออกเดินทางมายังอังกฤษ ซึ่งจะมีผลในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นี้ด้วย และว่าการฟื้นตัวของการเดินทางและทางการบิน ขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่จะยกเลิกการจำกัดเข้มงวดด้านการเดินทางที่ไม่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันอีกต่อไปหรือไม่

เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกกฎ ให้นักเดินทางต่างชาติที่เข้ามายังสหรัฯฐ จะต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิดเป็นลบภายในหนึ่งวันของการเดินทาง ขณะที่กฎก่อนหน้านั้นระบุว่า ผู้สัญจรทางอากาศที่ฉีดวัคซีนแล้ว ต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบภายใน 3 วันก่อนเดินทาง