รัฐโอเรกอน เตรียมให้ใช้ ‘เห็ดขี้ควาย’ แบบถูกกฎหมาย

ประเทศไทยเพิ่งจะ ‘ปลดล็อกกัญชา’ ไปไม่นาน แต่ต่างชาติก้าวข้ามไปอีกก้าวแล้ว เมื่อ ‘รัฐโอเรกอน’ เตรียมให้ใช้ ‘เห็ดขี้ควาย’ แบบถูกกฎหมาย เป็นรัฐแรกของสหรัฐ


โดย ในปี 2020 ชาวโอเรกอนได้ลงมติให้ส่วนผสมใน ‘Magic Mushroom’ (เห็ดขี้ควาย) ซึ่งก็คือสารเคมี ที่ชื่อว่า psilocybine เมื่อมันเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจะเปลี่ยนให้มันกลายเป็นสาร psilocine ซึ้งมีฤทธิ์หลอนประสาท ซึ่งจากเดิมทีเป็นสารที่ผิดกฎหมาย ให้กลายเป็นสารที่ถูกกฎหมาย


ซึ่งการลงมตินี้ เป็นการลงคะแนนเสียงจนได้ ‘มาตรการ 109’ และตั้งแต่นั้นมา ผู้อยู่อาศัยในรัฐโอเรกอนก็ยุ่งกับการสร้างกรอบการทำงานที่จะกำหนดกฎเกณฑ์สำหรับการเพาะปลูก การแจกจ่าย และการบริหาร แอลซีโลไซบิน


(ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ก่อนที่จะสามารถให้ใช้ได้อย่างจริงจัง รัฐโอเรกอนมีการคิดและกำหนดมาตรการต่างๆ นานถึง 2 ปี ซึ่งแตกต่างจากการ ‘ปลดล็อกกัญชา’ ของไทย ที่ออกกฎหมายปลดล็อก ก่อนที่จะออกมาตรการต่างๆ ออกมาควบคุม)


แน่นอนว่า การใช้เห็ดขี้ควายแบบถูกกฎหมายนี้ ไม่ใช่การใช้แบบเสรี ที่ให้ประชาชนเสพได้อย่างอิสระ แต่ให้ประชาชนสามารถรับแอลซิโลไซบินได้ที่ศูนย์บำบัดและคลินิก ที่ได้รับใบอนุญาต ในรัฐโอเรกอน ตอนต้นปีหน้า และเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้สารหลอนประสาทแบบถูกกฎหมาย


ทั้งนี้ จะมีหน่วยงานหลักสองแห่ง ที่รับผิดชอบในการพัฒนาตลาด นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ที่ซื้อที่ดิน จ้างพนักงาน และวางรากฐานสำหรับความต้องการในการใช้เห็ดขี้ควาย ซึ่งพวกเขาคาดหวังว่ากระตุ้นตลาดในการใช้บริการได้


โดย หน่วยงานหลักสองแห่ง นั้น หน่วยงานแรกคือ Oregon Psilocybin Advisory Board ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่สร้างขึ้นภายใต้มาตรการลงคะแนนเสียง ได้รับมอบหมายให้จัดทำข้อเสนอแนะสำหรับบริการแอลซีโลไซบินภายในสิ้นเดือนมิถุนายน


ส่วนหน่วยงานหลักที่สอง คือ Oregon Psilocybin Services ของ Oregon Health Authority ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในการจัดตั้งและควบคุมโปรแกรมต่างๆ จะพิจารณาคำแนะนำ และกรอบการกำกับดูแลที่ Oregon Psilocybin Advisory Board เสนอ ภายในสิ้นปี 2565


โดยตอนนี้ รัฐอื่น ๆ เช่น รัฐโคโลราโดกำลังเฝ้าดูรัฐโอเรกอนอย่างใกล้ชิด ในฐานะผู้นำในการปฏิรูปนโยบายการใช้สารหลอนประสาทในสหรัฐอเมริกา


ความรู้ทั่วไปของเห็ดขี้ควาย

เห็ดขี้ควาย หรือ เห็ดวิเศษ (Magic mushroom) เป็นเห็ดที่มีฤทธิ์กับระบบประสาท ขึ้นอยู่ตามกองมูลควายแห้ง ผู้ที่รับประทานเห็ดนี้ จะมีอาการมึนเมา ประสาทหลอน ไม่สามารถลำดับทิศทาง เห็นภาพ แสง สีต่างๆ ลวงตา มีความคิดและอารมณ์เปลี่ยนแปลง คล้ายเสพยาแอลเอสดี

ในประเทศไทย จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 โดยผู้ใดผลิต ขาย นำเข้า หรือส่งออก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-15 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 - 1,500,000 บาท ขณะที่ผู้เสพจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เห็ดขี้ควาย กับ โรคซึมเศร้า

ในปี 2020 วารสารทางสมาคมแพทย์ อเมริกัน ทางจิตเวช (JAMA psychiatry) ได้ตีพิมพ์อย่างเป็นทางการว่า เห็ดชนิดนี้ใช้ในการรักษาโรคหดหู่ ซึมเศร้าได้ (major depressive disorder-MDD/clinical depression) ทำให้ที่ผ่านมามีบริษัทยายักษ์ใหญ่ทั้งทางฝั่งอเมริกา และยุโรปล้วนจดสิทธิบัตรกับองค์กรการแพทย์ เพื่อทำการทดลองการใช้เห็ดขี้ควายในการรักษาต่อไป จนกว่าจะสกัดเป็นยาเพื่อการรักษาในที่สุด