จีนพบกาแล็กซีใหม่ ‘ถั่วลันเตา-บลูเบอร์รี-องุ่นม่วง’ นอกทางช้างเผือก

คณะนักดาราศาสตร์ค้นพบกาแล็กซีขนาดเล็กนอกกาแล็กซีทางช้างเผือก (Milky Way) จำนวนมากเป็นประวัติการณ์ โดยกาแล็กซีทางช้างเผือก เป็นกาแล็กซีที่พวกเราอาศัยอยู่ ซึ่งมีการก่อตัวของดาวต่างๆ อย่างรวดเร็ว

การศึกษาที่ตีพิมพ์เมื่อไม่นานนี้ในวารสารดิ แอสโตรฟิสิคอล เจอร์นัล (The Astrophysical Journal) ระบุว่าทีมนักวิจัยจากหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์แห่งชาติ สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน ค้นพบกาแล็กซีขนาดเล็กใหม่ 1,417 แห่ง ผ่านการใช้กล้องโทรทรรศน์ลามอสต์ (LAMOST) ของจีน ซึ่งเป็นจำนวนเกือบ 2 เท่าของตัวเลขที่พบในก่อนหน้านี้

หลัว อาหลี่ หัวหน้านักวิจัย กล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้เป็นตัวอย่างการค้นพบ กาแล็กซีขนาดเล็กจำนวนมากที่สุด ในคราวเดียว โดยการสังเกตการณ์โลกก่อนหน้านี้ พบกาแล็กซีขนาดเล็กเพียง 800 แห่ง

นอกเหนือจากเรื่องจำนวนแล้ว ยังได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนในวงกว้าง เนื่องจากกาแล็กซีที่เพิ่งค้นพบเหล่านี้ถูกตั้งชื่อตามผักและผลไม้ โดยส่วนใหญ่อิงตามสีและรูปร่างของกาแล็กซี

การค้นพบครั้งนี้ประกอบด้วยกาแล็กซีถั่วลันเตา 739 แห่ง กาแล็กซีบลูเบอร์รี 270 แห่ง และกาแล็กซีองุ่นม่วง 388 แห่ง

โดยที่ชื่อว่า กาแล็กซีถั่วลันเตา มีที่มาจากลักษณะกลมและหนาแน่นเหมือนถั่ว และปรากฏเป็นสีเขียวบนภาพสีเทียม

กาแล็กซีถั่วลันเตา ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1.5-5 พันล้านปีแสง มีขนาดเล็กกว่า 1 ใน 10 และมีมวลน้อยกว่า 1 ใน 100 ของกาแล็กซีทางช้างเผือก แต่มีอัตราการก่อตัวของดวงดาวที่สูงราว 10 เท่าของกาแล็กซีทางช้างเผือก

ขณะที่กาแล็กซีบลูเบอร์รี อยู่ใกล้โลกมากที่สุด และมีขนาดกะทัดรัดกว่ากาแล็กซีถั่วลันเตา ส่วนกาแล็กซีองุ่นม่วง อยู่ระหว่างกาแล็กซี 2 แห่งข้างต้น และไกลกว่ากาแล็กซีถั่วลันเตา

สื่อจีนบางสำนักขนานนามการค้นพบนี้ว่าเป็น “สวนผักและผลไม้นอกทางช้างเผือก” ทว่าด้านคณะนักวิจัยกล่าวว่ากาแล็กซีสีสว่างเหล่านี้ มีขนาดเล็กและสลัว ทำให้การสังเกตการณ์ดำเนินไปอย่างยากลำบากและมีขีดจำกัดมาก

มีการตั้งข้อสังเกตว่า กาแล็กซีขนาดเล็กแห่งใหม่เหล่านี้ มีมวลระหว่าง 3.1 แสน-1 หมื่นล้านมวลดวงอาทิตย์โดยประมาณ โดยกาแล็กซีที่ไกลที่สุดนั้นอยู่ห่างออกไปประมาณ 9 พันล้านปีแสง

ทั้งนี้ การสำรวจนอกกาแล็กซีทางช้างเผือก จะดำเนินต่อไป ซึ่งจะทำให้ค้นพบ กาแล็กซีขนาดเล็กกะทัดรัดมากยิ่งขึ้น รวมถึงจะเปิดโอกาสในการทำความเข้าใจ การก่อตัวและวิวัฒนาการของกาแล็กซีต่างๆ ในเอกภพยุคแรกเริ่มมากขึ้น

ที่มา : XINHUA