อดีต ปธน.ศรีลังกาเปิดใจหลังหนีออกนอกประเทศ ลั่นพยายามทุกทางเพื่อแก้วิกฤตแต่ไม่สำเร็จ

อดีตประธานาธิบดีศรีลังกา ซึ่งหนีการขับไล่จากพลังประชาชน ออกนอกประเทศ เปิดใจว่าได้พยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจแล้ว แต่ก็ล้มเหลว จากปัญหาเศรษฐกิจที่เรื้อรังยาวนานหลายปี บวกกับพิษโควิด นายน์ทีนระบาด

นายโกตาบายา ราชปักษา อดีตประธานาธิบดีของศรีลังกา ซึ่งได้หนีออกนอกประเทศ มุ่งหน้าไปมัลดีฟ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังสิงคโปร์ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากทนแรงกดดัน จากพลังมวลชนชาวศรีลังกาทั่วประเทศ ที่ออกมาเดินขบวนตามท้องถนนในกรุงโคลอมโบ นานนับสัปดาห์ ก่อนจะลุกลามกลายเป็นเหตุรุนแรง จนพากันบุกยึดบ้านพัก และทำเนียบประธานาธิบดี จนกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เนื่องจากไม่พอใจการบริหารประเทศ จนทำให้ประชาชนชาวศรีลังกาต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูง โดยตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา พุ่งแตะ ร้อยละ 54.6 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของศรีลังกา ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะพุ่งสูง ร้อยละ 70 ในอนาคต ขณะที่ราคาน้ำมัน และอาหารที่พุ่งสูง ประชาชนได้รับความเดือดร้อนหนัก

ล่าสุด เลขาธิการรัฐสภาศรีลังกา ได้นำจดหมายลาออกของนายราชปักษา ที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณชนมาก่อน มาอ่านต่อที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งมีเนื้อความระบุว่า วิกฤติทางการเงินที่เกิดขึ้นในประเทศนั้น หยั่งรากลึกและเรื้อรังมานานหลายปีจากการบริหารที่ผิดพลาด ก่อนที่เขาจะมาดำรงตำแหน่งบวกกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมายังศรีลังกาลดลงฮวบฮาบ รวมทั้งแรงงานที่ทำงานในต่างประเทศก็ส่งเงินกลับมาลดลงด้วย โดยส่วนตัวแล้วเขาเชื่อว่าได้ทำทุกวิถีทางที่เป็นไปได้แล้ว ในการป้องกันวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศ แต่ก็ไม่สำเร็จ

ชาวศรีลังกาทั่วประเทศ ตั้งตารอผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ หลังจากต้องอยู่ภายใต้ การบริหารประเทศของตระกูลราชปักษามาเกือบ 2 ทศวรรษ สำหรับกระบวนการสรรหา ประธานาธิบดีศรีลังกาคนใหม่ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อวานนี้ ท่ามกลางมาตรการคุมเข้มรอบพื้นที่อาคารรัฐสภา ทั้งนี้สมาชิกรัฐสภา จะมีการประชุมในวันอังคารที่จะถึงนี้ เพื่อรับรองการเสนอชื่อเป็นประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะมีการลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ในวันถัดไป คือ วันที่ 20 กรกฎาคมนี้

รายงานระบุว่า อาจจะมีผู้เสนอชื่อรับตำแหน่ง 3 คน ได้แก่ นายรานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมนตรีที่เพิ่งรับตำแหน่งรักษาการณ์ประธานาธิบดี นายดัลลาส อลาฮัพเปอรูมา สมาชิกอาวุโสพรรครัฐบาล และ นายซาจิต ปรีมาดา ซึ่งถูกเสนอชื่อจากพรรคฝ่ายค้าน