ฟิลิปปินส์เลือกตั้งใหญ่ ชี้ชะตา “ตระกูลมาร์กอส” จะได้กลับสู่อำนาจหรือไม่

ชาวฟิลิปปินส์ออกไปเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ในวันนี้ ซึ่งหลายฝ่ายจับตาว่า ตัวเต็งคนสำคัญ อย่างนาย เฟอร์ดินาน “บองบอง” มาร์กอส ลูกชายของอดีตผู้นำเผด็จการ เฟอร์ดินาน มาร์กอส จะคว้าชัยชนะ เพื่อทำให้ตระกูล มาร์กอส กลับสู่อำนาจอีกครั้งได้หรือไม่

ชาวฟิลิปปินส์ ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 65 ล้านคน ทยอยออกไปสิทธิ์เลือกตั้งเพื่อหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศ แทนประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต หลังจากดำรงตำแหน่งครบวาระ 6 ปีแล้ว ซึ่งนอกจากการเลือกประธานาธิบดีแล้ว ชาวฟิลิปปินส์ยังต้องเลือก รองประธานาธิบดี รวมทั้ง สมาชิกผู้แทนราษฎร , ผู้ว่าการ และ นายกเทศมนตรีอีกหลายพันที่นั่งอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายฝ่ายเฝ้าจับตาดูกันก็คือ การเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งนี้ เป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างนาย เฟอร์ดินาน “บองบอง” มาร์กอส ลูกชายของผู้นำเผด็จการ เฟอร์ดินาน มาร์กอส กับ คู่แข่งคนสำคัญคือ นาง เลนี โรเบรโต รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ของฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ ยังผู้สมัครลงเลือกตั้งอีก 8 คน ซึ่งมี แมนนี่ ปาเกียว นักมวยชื่อดังลงสู้ศึกเลือกตั้งด้วย

โดยผลการสำรวจความคิดเห็น ผลการสำรวจความคิดเห็น ระบุว่า นายบองบอง มาร์กอส มีคะแนนนิยม สูงถึง 56% ซึ่งนำคู่แข่งคนสำคัญอย่างนางโรเบรโด ที่มีคะแนนนิยมอยู่ที่ 23% อย่างไรก็ตาม นางโรเบรโด เน้นชูเรื่อง ปฎิวัติสีชมพู คือ การขับเคลื่อนฟิลิปปินส์ให้กลับสู่ค่านิยมที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวและหลักพื้นฐานกฎหมาย แต่ก็มีจุดอ่อน ที่หลายคนมองว่า เธอเป็นสมาชิกพรรคลิเบอรัล ซึ่งมีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับคนในตระกูลร่ำรวย และ ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศ

ขณะที่นายบองบอง จะไม่ได้มีนโยบายใหม่ออกมา แต่ก็อาสาที่สร้างความน้ำหนึ่งใจเดียว ที่จะพาชาวฟิลิปปินส์ ฝ่าวิกฤติโควิด-19 และวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำ และยกระดับชีวิตชาวฟิลิปปินส์ให้ดีขึ้น

หากเป็นไปตามที่คาดการณ์ บองบอง ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ก็จะเป็นการกลับคืนสู่อำนาจของตระกูลมาร์กอส ครั้งแรกในรอบ 36 ปี ท่ามกลางความท้าทายที่เขาต้องเผชิญ ตั้งแต่ เรื่องวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำ , ความยากจน , ปัญหาการว่างง่าน เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่าเกิดปัญหาขึ้นกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เช่นที่กรุงมะนิลา ประชาชนที่ไปลงคะแนนบางคนพบว่า พวกเขาไม่สามารถป้อนกระดาษเข้าไปในเครื่องนับคะแนนได้ รวมถึง บางจุดมีการสั่งให้ประชาชนทิ้งบัตรลงคะแนนไว้กับเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่ามีเครื่องนับคะแนนมีปัญหาหรือใช้งานไม่ได้ จำนวน 533 เครื่อง จากทั้งหมด 106,000 เครื่อง

และเมื่อเวลา เมื่อเวลา 19 นาฬิกา (ตามเวลาท้องถิ่น) หรือประมาณ 18 นาฬิกา (ตามเวลาในไทย) ได้มีการปิดคูหาเลือกตั้งแล้ว และกำลังเริ่มทำการนับคะแนน อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งครั้งนี้ ทางคณะกรรมการเลือกตั้ง จะขยายเวลาเลือกตั้ง เป็น 13 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่า การเลือกตั้งกลางเทอม เมื่อปี 2019 หนึ่งชั่วโมง เพื่อชดเชยเวลา เนื่องจากผู้มีใช้สิทธิ์ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 20 นาฬิกา 17 นาที ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 19 นาฬิกา 17 นาที ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นอย่างการ ปรากฏว่านายบองบอง มาร์กอส มีคะแนนนำทิ้งห่างนางโรเบรโด ขณะที่ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งรองประธานาธิบดี ปรากฏว่า นางซารา ดูเตร์เต ลูกสาวของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต มีคะแนนนำแบบทิ้งห่างจากผู้สมัครคนอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ จะได้ทราบกันในวันพรุ่งนี้เช้า (10 พ.ค.) และผู้ชนะเลือกตั้ง จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ 30 มิถุนายนนี้