ต่างประเทศ
รัสเซีย สิ้นสุดปฏิบัติการทางทหารระยะแรก จ่อปรับยุทธศาสตร์มุ่งปลดแอกดอนบาส
โดย pattraporn_a
26 มี.ค. 2565
66 views
รัสเซียประกาศว่ายุติปฏิบัติการทางทหารในยูเครนระยะแรกแล้ว หลังเปิดฉากโจมตียูเครนวันแรก เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธุ์ ซึ่งนับเป็นเเวลาเดือนเศษของปฎิบัติการทางทหารของรัสเซียในหลายเมืองของยูเครน
กองทัพรัสเซียออกมาเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนระยะแรกเสร็จสมบูรณ์และประสบความสำเร็จแล้ว กองกำลังรัสเซียสามารถทำให้กองกำลังยูเครนลดประสิทธิภาพการต้านทานลงได้ โดยทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร อุปกรณ์ และกำลังพลยูเครน ตามเป้าหมายที่วางไว้ในตอนแรก และนับจากนี้ไปรัสเซียจะไปมุ่งเป้าหมายไปที่การปลดปล่อยภูมิภาคดอนบาส
ซึ่งทางรัสเซียระบุว่า ตอนนี้พื้นที่ส่วนใหญ่ใน 2 แคว้นของภูมิภาคดอนบาส คือลูฮันสก์ และโดเนสต์ อยู่ในความควบคุมของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซียแล้ว โดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนควบคุมพื้นที่ในแคว้นลูฮันสก์ ได้ร้อยละ 93 ขณะที่ลูฮันสก์ ควบคุมได้ร้อยละ 54
กลาโหมรัสเซียยังได้เปิดเผยตัวเลขทหารรัสเซียที่เสียชีวิตในสงครามครั้งนี้ว่า อยู่ที่ 1,351 นาย บาดเจ็บ 3,825 นาย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวไม่ตรงกับข้อมูลของนาโต้ ที่ระบุว่า รัสเซียสูญเสียทหารไปประมาณ 7,000 ถึง 15,000นาย ขณะที่พลเรือนในยูเครนเสียชีวิตไปอย่างน้อย 1,035 คน และอีกอย่างน้อย 1,650 คนได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์มองว่าการปรับเปลี่ยนรูปแบบการรบของรัสเซียเป็นการยอมรับความล้มเหลว เนื่องจากในตอนแรก กองกำลังของรัสเซียพยายามที่จะปิดล้อมเมืองใหญ่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของยูเครน แต่หลังจากการทิ้งระเบิดและการยึดเมืองต่าง ๆ กองกำลังรัสเซียก็ถูกกองทัพของยูเครนสู้กลับ จนสามารถผลักดันกองกำลังของรัสเซียในภาคตะวันออกให้ถอยห่างจากกรุงเคียฟมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ข้อมูลการประเมินของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ ระบุว่ารัสเซียไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการบุกเมืองคาร์คีฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของยูเครนได้ รวมถึง ยังถูกกองทัพยูเครนยึดพื้นที่เมืองคอร์สันกลับคืนมาได้อีก
ซึ่งเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนก็ออกมาแถลงว่ากองกำลังของยูเครนสามารถต่อต้านและจัดการกับกองกำลังของรัสเซีย จนสร้างความสูญเสียเป็นอย่างมากให้กับรัสเซีย โดยอ้างว่ารัสเซียได้สูญเสียกองกำลังไปแล้วมากกว่า 16,000 นาย รวมถึงนายพลระดับสูงอีกหลายคน
นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังบอกว่า การต่อสู้ของยูเครนทำให้ผู้นำของรัสเซียต้องมองย้อนกลับไปหาแนวทางที่เรียบง่ายและมีเหตุผล ซึ่งนั่นก็คือ การเจรจาและพูดคุยกันอย่างเร่งด่วนและยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม การสู้รบของรัสเซียในยูเครนตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ชาวยูเครนจำนวนมากต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ แล้วกว่า 3.7 ล้านคน ในจำนวนนี้กว่าครึ่งหนึ่งลี้ภัยไปที่โปแลนด์
ขณะที่ภารกิจการเยือนยุโรปของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ไบเดนปิดท้ายการเยือนที่โปแลนด์ โดยผู้นำสหรัฐฯ ได้ร่วมประชุมกับรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของยูเครนที่กรุงวอร์ซอ ของโปแลนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเพื่อบอกว่า สหรัฐฯมีความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงที่จะสนับสนุนยูเครนที่กำลังถูกโจมตีจากรัสเซีย
ประธานาธิบดีไบเดนยังต้องการที่จะแสดงความขอบคุณชาวโปแลนด์ ที่ให้การต้อนรับผู้ลี้ภัยยูเครน ที่หลบหนีการรุกรานของรัสเซีย อย่างอบอุ่น โดยเมื่อวานนี้ไบเดนยังได้เดินทางไปเยี่ยมทหารสหรัฐฯที่ประจำการในโปแลนด์ด้วย
ขณะเดียวกัน ในวันนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกี ของยูเครนได้กล่าวแถลงในการประชุมนานาชาติ โดฮา ฟอรัม (Doha Forum) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงโดฮาร์ ประเทศกาตาร์ เรียกร้องให้ประเทศผู้ส่งออกพลังงานให้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันและก๊าซในตลาดโลก ทดแทนการพึ่งพาพลังงานของรัสเซียพร้อมกับเป็นการบอกให้กับรัสเซียรู้ว่าไม่สามารถเอาเรื่องของพลังงานมา "แบล็คเมล" ประเทศอื่นได้
โดย นายเซเลนสกี เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ อย่างเช่น กาตาร์ เพิ่มการผลิตพลังงานต่าง ๆ เพื่อรักษาสเถียรภาพของยุโรป และว่าอนาคตของยุโรปขึ้นอยู่กับความพยายามของประเทศเหล่านี้