ต่างประเทศ

ผู้นำ 3 ชาติจากอียู เตรียมเยือนกรุงเคียฟ แสดงจุดยืนหนุนยูเครน ท่ามกลางการโจมตีจากรัสเซีย

โดย pattraporn_a

15 มี.ค. 2565

56 views

นายกรัฐมนตรีจาก 3 ประเทศ ซึ่งเป็นสมาชิกของอียูกำลังเดินทางไปเยือนกรุงเคียฟ ของยูเครน เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครน นับเป็นผู้นำต่างชาติกลุ่มแรกที่เดินทางเยือนยูเครนนับตั้งแต่เกิดการสู้รบ ขณะที่การโจมตีของรัสเซียยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง


วันนี้ กองกำลังของรัสเซียยิงจรวดทั้งหมด 2 ลูกเข้าใส่อาคารที่พักอาศัยสูง 15 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน แรงระเบิดส่งผลให้อาคารเกิดไฟไหม้จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก ล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 4 คน ด้านนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถาน เป็นระยะเวลา 36 ชั่วโมง หากไม่ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษ ยกเว้นการหลบไปยังสถานที่หลบภัย


เช่นเดียวกันกับอีกหลายเมือง ทั้ง ออเดซา (Odesa), เชอร์นิกอฟ (Chinihiv), เชอคาซี (Cherkasy), และสมิลา (Smila) มีเสียงระเบิดและไซเรนแจ้งเตือนภัยดังขึ้นตลอดเวลา


ส่วนความคืบหน้าของการอพยพประชาชนออกจากเมืองที่ถูกปิดล้อม ทางการยูเครนออกมาเปิดเผยว่าสามารถอพยพประชาชนออกจากเมืองต่างๆ ได้อีกกว่า 4,000 คน ขณะที่หน่วยงานด้านผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีชาวยูเครนลี้ภัยสงคราม ไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้วประมาณ 2.8 ล้านคน


ขณะที่การเจรจารอบล่าสุด เมื่อวานนี้ ระหว่างรัสเซียกับยูเครน ก็ยุติลงโดยไร้ข้อตกลงอีกเช่นเคย แต่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี บอกว่าการเจรจาเมื่อวานนี้มีสัญญาเป็นไปในทิศทางที่ดี ทำให้จะมีการเจรจาต่อกันอีกครั้งในวันนี้ โดยทางยูเครนย้ำจุดยืดเหมือนเดิมว่า ต้องการสันติภาพ, การหยุดยิงทันที และให้รัสเซียถอนกำลังทหารออกจากยูเครน


ขณะเดียวกัน ในวันนี้ มีรายงานว่านายกรัฐมนตรีจาก 3 ประเทศที่เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป ได้แก่ นายกรัฐมนตรี ปีเตอร์ เฟียลา (Petr Fiala) ของสาธารณรัฐเช็ก, นายกรัฐมนตรี มาแตอุช มอราวีแยตสกี (Mateusz Morawiecki) ของโปแลนด์, และนายกรัฐมนตรี ยาแน็ส ยานชา (Janez Jansa) ของสโลวีเนีย จะเดินทางเยือนกรุงเคียฟ เพื่อหารือกับประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครน


โดยมีการยืนยันออกมาว่าจุดประสงค์ของการเยือนในครั้งนี้เพื่อแสดงจุดยืนว่าสหภาพยุโรปยังคงให้การสนับสนุนอธิปไตยและอิสภาพของยูเครน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเฟียลายังบอกเพิ่มเติมอีกว่าทั้ง 3 ประเทศอาจเพิ่มความช่วยเหลือให้กับยูเครนด้วย


ด้านสหภาพยุโรป คณะกรรมาธิการยุโรป มีมติเห็นชอบมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่อย่างเป็นทางการต่อรัสเซีย เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครน โดยพุ่งเป้าไปที่การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมพลังงาน, การส่งออกสินค้าฟุ่มเฟือย, และการนำเข้าเหล็กจากรัสเซีย


โดยคณะกรรมาธิการยุโรประบุในแถลงการณ์ ว่าการคว่ำบาตรรอบนี้ มีคำสั่งห้ามการลงุทนใหม่ในภาคอุตสาหกรรมพลังงานของรัสเซีย ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่า มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มบริษัทน้ำมันของรัสเซีย รวมถึง ยังมีคำสั่งห้ามการทำธุรกรรมกับรัฐวิสาหกิจของรัสเซียบางแห่ง ที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอุตสาหกรรมทางทหารของรัฐบาลรัสเซียด้วย พร้อมทั้งระงับการนำเข้าเหล็กจากรัสเซีย ซึ่งคาดว่าจะกระทบต่อสินค้าที่มีมูลค่าสูงถึง 3,300 ล้านยูโร (ราว 120,000 ล้านบาท) ขณะเดียวกัน บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าฟุ่มเฟือยจะไม่สามารถส่งออกสินค้า ที่มีมูลค่าเกิน 300 ยูโร (ราว 11,000 บาท) ไปยังรัสเซียได้ รวมถึงการส่งออกรถยนต์ ที่มีมูลค่าเกิน 50,000 ยูโร (ราว 1,800,000 ล้านบาท) ก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน


สหภาพยุโรปยังเห็นชอบเพิกถอนสถานะทางการค้า “ชาติที่ได้รับอนุเคราะห์ยิ่ง” (Most-favoured nation) ของรัสเซีย ซึ่งสามารถเปิดทางให้อียูออกคำสั่งห้ามหรือจัดเก็บภาษีสินค้าของรัสเซีย และห้ามการนำเข้าอย่างเด็ดขาดนอกจากนี้ ยังมีการอายัดทรัพย์สินของนักธุรกิจเพิ่มเติมที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลรัสเซีย รวมถึง นายโรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรฟุตบอลเชลซีด้วย ซึ่งเขาจะถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ในยุโรป และถูกห้ามเดินทางเข้ามาในประเทศที่เป็นสมาชิกของอียูด้วย


คุณอาจสนใจ

Related News