การสู้รบรัสเซีย-ยูเครน ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 15 เจรจารอบใหม่ไร้ความคืบหน้า

สถานการณ์การสู้รบของรัสเซียในยูเครน ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 15 แล้ว ล่าสุด ในวันนี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียและยูเครนได้มีการหารือกันอย่างเป็นทางการที่ตุรกี แต่ก็สิ้นสุดโดยไร้ข้อตกลงเช่นเคย

นายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน เข้าร่วมการหารือแบบตัวต่อตัวกับนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ที่เมืองอันทาเลีย ของตุรกี ซึ่งเป็นการเจรจา 3 ฝ่าย โดยมีตุรกี เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย นับเป็นการเจราจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองประเทศครั้งแรก ตั้งแต่เกิดการสู้รบขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ ทั้งสองฝ่ายก็ยังคงไม่ได้ข้อสรุปเรื่องการหยุดยิงอยู่ดี อย่างไรก็ตาม นายคูเลบา ยังคงได้เรียกร้องให้รัสเซียอนุญาตให้มีการอพยพประชาชนออกจากเมืองมาริอูโปล ที่ถูกกองทัพรัสเซียปิดล้อมอยู่ในขณะนี้ ผ่านเส้นทางมนุษยธรรม

ขณะที่ทางด้าน นายลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ก็ออกมาแถลงหลังการหารือเช่นเดียวกัน โดยว่าการหารือในวันนี้ส่วนใหญ่พูดถึงไปในเรื่องมนุษยธรรม และเมื่อถูกถามเกี่ยวกับปฏิบัติการโจมตียูเครนของรัสเซีย นายลาฟรอฟก็บอกว่า ปฏิบัติการทางทหารพิเศษยังคงดำเนินไปตามแผน พร้อมตำหนิชาติตะวันตกว่าการส่งมอบอาวุธให้กับยูเครนเป็นการกระทำที่อันตราย

การเจรจาครั้งล่าสุด เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้ ทางการยูเครนออกมาเปิดเผยว่ากองทัพรัสเซียได้โจมตีทางอากาศ ด้วยการทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลแม่และเด็ก ในเมืองมาริอูโปล ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ เหตุโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่รัสเซีย ตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 12 ชั่วโมง เพื่อให้พลเรือนอพยพออกจากพื้นที่ รายงานระบุว่า มีเด็กในโรงพยาบาล ถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง เบื้องต้น มีรายงานผู้บาดเจ็บ 17 คน ซึ่งมีแม่ที่กำลังคลอดลูกรวมอยู่ด้วย แต่ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติม ผู้เสียชีวิต 3 คน ในจำนวนนี้มีเด็ก 1 คน

ด้าน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ออกมาแถลงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครน และเป็นอาชญากรรมทางสงคราม นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้นาโต้กำหนดเขตห้ามบิน เหนือน่านฟ้ายูเครน ก่อนที่จะสายเกินไปจนทำให้ชาวยูเครนต้องเสียชีวิตหลายล้านคน

ขณะเดียวกัน ทางด้านนายกเทศมนาตรีเมืองมาริอูโปลออกมาบอกว่า นับตั้งแต่ที่กองทัพรัสเซียปิดล้อมเมืองมาอย่างน้อย 10 วัน มีพลเมืองถูกสังหารไปแล้วประมาณ 1,200 คน ซึ่งทางด้านหน่วยงานสภากาชาดสากลเปรียบเปรยสถานการณ์ในเมืองแห่งนี้ว่าเหมือนกับ "วันสิ้นโลก" หลังจากที่ไม่มีน้ำและไฟฟ้าใช้งานแล้วกว่า 1 สัปดาห์

อย่างไรก็ดี ในวันนี้ ยูเครนได้เปิดเส้นทางมนุษยธรรมเพื่ออพยพประชาชนออกจากเมืองที่ถูกปิดล้อมอีกอย่างน้อย 7 เส้นทาง หลังจากที่เมื่อวานนี้ ปฏิบัติการอพยพประชาชน ระหว่างการหยุดยิง 12 ชั่วโมง สามารถอพยพประชาชนออกจากเมืองต่างๆ ได้ประมาณ 35,000 คน

ส่วนท่าทีของต่างชาติ วันนี้ อังกฤษออกมาประกาศคว่ำบาตรมหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ที่ทางอังกฤษกฤษระบุว่ามีสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน อีกอย่างน้อย 7 คน ในจำนวนนี้ มีนายโรมัน อบราโมวิช (Roman Abramovich) เจ้าของสโมสรฟุลบอลเชลซีรวมอยู่ด้วย โดยจะมีการอายัดทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ในสหราชอาณาจักร พร้อมกับห้ามนายอัมบราโมวิชกระทำการใดๆ กับสโมสรเชลซี รวมถึงการขายสโมสร อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอังกฤษยังคงอนุญาตให้นักแตะสามารถลงแข่งขันได้