ต่างประเทศ

รัสเซียยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่สุดในยุโรป ท่ามกลางเสียงประณามจากทั่วโลก

โดย pattraporn_a

4 มี.ค. 2565

89 views

กองทัพรัสเซียยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ในยูเครนที่ขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป หลังจากถูกโจมตีจนทำให้เกิดไฟไหม้ สร้างความวิตกกังวลเป็นอย่างมากให้กับหลายฝ่ายว่าอาจเกิดระเบิดขึ้น ขณะที่ผู้นำทั่วโลกออกมาประณามการกระทำดังกล่าวของรัสเซีย


หลายประเทศออกมาประณามรัสเซีย หลังกองกำลังของรัสเซียยิงขีปนาวุธใส่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ “ซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia)” ในเมือง อีเนอโกดาร์ (Energodar) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน เมื่อช่วงเช้าตรู่วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น จนทำให้เกิดไฟลุกไหม้ ซึ่งสร้างความวิตกกังวลเป็นอย่างมากให้กับหลายฝ่ายว่าจะทำให้โรงไฟฟ้าระเบิด แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ และไม่พบสารกัมมันตรังสีรั่วไหล


โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกาออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลรัสเซีย ยุติปฏิบัติการทางทหารรอบ ๆ โรงไฟฟ้า ขณะที่นายรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็น “การโจมตีที่น่าหวาดกลัว” พร้อมย้ำว่าจะต้องยุติในทันที


ด้านนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ ออกมาประณามการโจมตีที่ไม่ยั้งคิดของรัสเซีย ซึ่งอาจเป็นภัยคุกคาม ต่อความปลอดภัยของยุโรป และเรียกร้องให้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่ง สหประชาชาติจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือในเรื่องนี้


ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำของยูเครน กล่าวว่ารัสเซียต้องการที่จะทำให้อุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ ที่เคยเกิดกับเชอร์โนบิล เมื่อปี พ.ศ. 2529 เกิดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ซึ่งถ้าหากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ระเบิด อาจถือเป็นจุดจบของทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงทวีปยุโรปด้วย เพราะจะมีความรุนแรงมากกว่าเชอร์โนบิลถึง 10 เท่า


นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังออกมาแถลงเพิ่มเติมเรียกร้องชาวรัสเซียออกมาประท้วงรัฐบาลของตัวเอง หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น โดยระบุว่า หลังจากที่พวกเราเคยร่วมต่อสู้กับภัยพิบัติเชอร์โนบิล ชาวรัสเซียควรที่จะออกมาประท้วงและเรียกร้องว่าต้องการใช้ชีวิตโดยปราศสารกัมมันตรังสี พร้อมยังเรียกร้องให้นานาชาติคว่ำบาตรกับรัสเซียเพิ่มเติม


ล่าสุด หน่วยงานกำกับดูแลด้านนิวเคลียร์ของยูเครน รายงานผ่านทางเฟซบุ๊คว่า กองกำลังรัสเซีย สามารถยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าวได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ภายในโรงไฟฟ้ายังทำงานต่อไป เพื่อควบคุมสภาพความปลอดภัยของโรงไฟฟ้า


สำหรับ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ ที่สุดของยุโรป โดยมีเตาปฏิกรณ์ทั้งหมด 6 ตัว และดำเนินการผลิตไฟฟ้า ร้อยละ 25 ในประเทศ หรือ 5,700 เมกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอต่อบ้านเรือนของประชาชน ประมาณ 4 ล้านหลังคาเรือน


ด้านทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ ไอเออีเอ ออกมาแถลงยืนยันว่า ขณะนี้ไม่พบสารกัมมันตรังสีรั่วไหลออกมาจากโรงไฟฟ้าดังกล่าว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า มีอาคารที่ใช้สำหรับฝึกฝนได้รับความเสียหายจากการโจมตี ซึ่งนาย ราฟาเอล มารีอาโน กรอสซี (Rafael Mariano Grossi) ผู้อำนวยการของไอเออีเอ ระบุว่าอาคารดังกล่าวไม่ได้อยู่ใกล้กับเตาปฏิกรณ์


ขณะที่ทางด้านกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ได้ออกมาแถลงตอบโต้ว่าการโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้เกิดขึ้นเพื่อตอบโต้การยั่วยุจากฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากในตอนที่ กองกำลังของรัสเซียกำลังลาดตระเวนในพื้นที่ อยู่ดี ๆ ก็ถูกฝ่ายยูเครนโจมตี ด้วยการยิง “อาวุธขนาดเล็ก” จำนวนมากออกมาจากหน้าต่างของอาคารฝึกอบรบดังกล่าว


ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย กล่าวแถลงในการประชุมของรัฐบาล ที่ออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐ เตือนผู้ที่ต่อต้านการกระทำของรัสเซียในยูเครนว่า “อย่าทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น” ด้วยการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมกับรัสเซีย พร้อมว่ารัสเซียไม่มีเจตนาร้ายต่อประเทศเพื่อนบ้าน


ซึ่งการแถลงของผู้นำรัสเซียล่าสุด เกิดขึ้นพร้อมกันกับที่รัฐมนตรีต่างประเทศของชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ กำลังประชุมกันที่กรุงบรัสเซลล์ เพื่อหารือถึงการกำหนดมาตรการเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซียเพิ่มเติม


ส่วนสถานการณ์สู้รบทั่วไปในขณะนี้ ที่เมืองมารียูปอล (Mariupol) เมืองท่าสำคัญทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ถูกกองกำลังของรัสเซียห้อมล้อมเอาไว้ แต่รายงานระบุว่า เมืองแห่งนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของฝั่งยูเครนอยู่ ขณะที่เมืองเชอร์นิกอฟ (Chernihiv) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือ เกิดเหตุโจมตีทางอากาศเมื่อวานนี้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 47 คน ส่วนที่กรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศ ก็มีรายงานว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายจุด


ส่วนความคืบหน้าของการเจรจารอบ 2 ระหว่างตัวแทนของรัสเซียและยูเครนเมื่อวาน ปรากฎว่าทั้งสองฝ่าย เห็นพ้องให้ การเปิดเส้นทางขนส่งเพื่อมนุษยธรรม และอาจมีการหยุดยิงเพื่อเปิดให้มีการอพยพประชาชน












คุณอาจสนใจ

Related News