ออสเตรเลีย พบผู้เสียชีวิตจากโอมิครอนรายแรก รพ.ในซิดนีย์ แจ้งผลตรวจโควิดผิดกว่า 400 คน

ออสเตรเลียพบผู้เสียชีวิตจากโอมิครอนรายแรกในประเทศ ขณะที่รัฐต่างๆ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น 

ทางการออสเตรเลียเปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นชายวัยประมาณ 80 ปี และมีโรคประจำตัว ซึ่งติดเชื้อโควิด-19 ที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแห่งหนึ่ง และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในนครซิดนีย์ นับเป็นผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรกของประเทศ

ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในออสเตรเลียก็กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ทะลุ 1 หมื่นคนในวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่รัฐนิวเซาท์เวลส์, วิกตอเรีย, และเซาท์ออสเตรเลีย ซึ่งที่นิวเซาท์เวลส์ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,324 คน ขณะที่วิกตอเรียมี 1,999 คน ส่วนที่รัฐควีนส์แลนด์ มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มสูงขึ้น 784 คน ในจำนวนนี้หนึ่งในสามเป็นเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอน

ด้าน มุขมนตรีของรัฐ เผยว่า แม้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่จะเพิ่มสูงขึ้น แต่เบื้องต้นยังไม่พบว่าการแพร่ระบาดส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาล ทั้งนี้ รัฐบาลออสเตรเลียยังไม่มีทีท่าที่จะกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอีกครั้ง แต่เบื้องต้น มีเพียงการบังคับใช้มาตรการบางอย่าง

ส่วนความคืบหน้าเรื่องที่โรงพยาบาลเซนต์ วินเซนต์ (St Vincen’s) ในนครซิดนีย์ ออกมายอมว่าการแจ้งผลตรวจโควิด-19 ผิดพลาดถึง 400 คน เมื่อวานนี้ ล่าสุด สื่อท้องถิ่นรายงานเพิ่มเติมว่า มีผู้ที่ได้รับผลตรวจผิดพลาดเพิ่มขึ้นอีก 995 คน โดยเป็นผลการตรวจของวันที่ 23 – 24 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้ ผู้ที่ได้รับการแจ้งผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็น “ลบ” แต่แท้จริงแล้ว ผลตรวจที่ออกมาเป็น “บวก” มีจำนวนเกือบ 1,400 คน