รวบ 2 พ่อลูก ตระเวนลักหม้อแปลงไฟฟ้า ทำเป็นอุตสาหกรรมครัวเรือน เรียนรู้ผ่านยูทูบ

รวบ 2 ผู้ต้องหาตระเวนลักหม้อแปลงไฟฟ้า หลังรวบตัวเด็กชายวัย 16 ได้ พบทำกันแบบอุตสาหกรรมครอบครัว ดูวิธีถอดยกหม้อแปลงผ่านยูทูบ

ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม นายศักดิ์สิทธิ์ อายุ 38 ปี บุคคลตามหมายจับ 4 หมายจับ และนายสมจิตร อายุ 65 ปี บุคคลตามหมายจับ 4 หมายจับ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป และทรัพย์นั้นเป็นทรัพย์ที่มีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม สถานที่จับกุม ถนนเพชรเกษม ทล.4 (ขาเข้า กทม.) กม.182+200 ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสตูล ได้จับกุม นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ซึ่งกำลังก่อเหตุลักทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้า บริเวณถนนสายตันหยงโป ต.ตันหยงโป อ.เมือง จ.สตูล ภายหลังจากการจับกุม นายเอให้การรับว่า ร่วมกับพวกอีก 3 คน ซึ่งหลบหนีไปได้  คือ นายศักดิ์สิทธิ์ บิดาของนายเอ, นายสมจิตร ปู่ของนายเอ และ น.ส.น้ำ อายุ 15 ปี แฟนสาวของนายเอ โดยทั้ง 4 คนจะใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างขับขี่ตระเวนไปยังบริเวณถนนบ้านตันหยงโป เมื่อพบเสาไฟฟ้าซึ่งมีหม้อแปลงไฟฟ้าติดตั้งอยู่ นายเอจะนำอุปกรณ์ที่เตรียมมาขึ้นไปถอดหม้อแปลงไฟฟ้า จากนั้นนายศักดิ์สิทธิ์จะช่วยเหลือและรอรับหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่บริเวณด้านล่าง โดยมีนายสมจิตรและน.ส.น้ำ คอยดูต้นทางให้

หลังจากถอดหม้อแปลงไฟฟ้ามาได้แล้วจะนำกลับมาถอดแยกชิ้นส่วนอุปกรณ์และนำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยในแต่ละครั้ง จะขายได้ราคาประมาณ 8,000-10,000 บาท ต่อลูก/ต่อครั้ง ซึ่งหลังจากที่ได้เงินมาแล้วก็จะนำมาแบ่งกัเพื่อใช้จ่ายภายในครอบครัว นายเอรับว่าก่อเหตุลักทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้ามาแล้ว 4 ครั้ง ได้รับเงินจากการขายหม้อแปลงไฟฟ้าประมาณครั้งละ 40,000 บาท ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับหม้อแปลงไฟฟ้าผ่านทาง Youtube และดูวิธีการขึ้นไปถอดเปลี่ยนแปลง และร่วมกันสร้างอุปกรณ์ที่ใช้การลักทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้าดังกล่าวเอง

ภายหลังจากการสืบสวนสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ ผู้ต้องหาอีก 3 รายที่ยังคงหลบหนีอยู่ ต่อมาตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่า นายศักดิ์สิทธิ์และนายสมจิตรกำลังเดินทางหลบหนีโดยใช้รถยนต์เข้ากรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรี จึงได้วางกำลังทำการสกัดจับกุมตัวได้ที่บริเวณ ถนนเพชรเกษม (ขาเข้า กทม.) กม.182+200 ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวนำส่ง สภ.เมืองสตูล ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดย chutikan_o