ปู่โสมเข้าทรงให้สัมภาษณ์ สำเนียงเปลี่ยนจากอีสานเป็นลาว บอกขอเปลญวนไว้รองรับเพื่อนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาเยี่ยม

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 ก.ย.2567 ที่ศาลปู่ตาเหมราชและศาลปู่ตาโสม ตั้งอยู่บนถนนสาย มัญจาคีรี-ชนบท หน้าวิทยาลัยการอาชีพชนบทพื้นที่บ้านคุ้มน้อย หมู่ 3 ต.ชนบท อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นป่าสะแกนาเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ซึ่งถ้าหากใครไม่เคยผ่าน ก็จะแปลกตา เพราะที่ศาลปู่ตาแห่งนี้มีเปลญวนผูกอยู่ตามต้นสะแกนาเป็นจำนวนมาก


แต่สำหรับคนในพื้นที่หรือคนที่เคยมากราบไหว้ก็จะทราบกันดีว่า เปลญวนเหล่านี้เป็นการนำมาแก้บน และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คือปู่จองพอ ปู่เหมราช และ ปู่โสม ซึ่งเป็นพี่น้องกันคอยปกปักรักษาคุ้มครองชาวบ้านในพื้นที่ และให้โชคกับผู้ที่มาสักการะกราบไหว้ และขอโชคลาภในแต่ละวันจากไหเงิน ไหทอง ที่อยู่บนศาลปู่ตาของปู่โสม โดยในไหเงิน ไหทองนั้น จะมีลูกปิงปองที่มีตัวเลขเขียนเอาไว้แต่ละลูกจำนวน 1 หลัก โดยชาวบ้านที่มาเสี่ยงโชคนั้น แต่ละคนก็จะล้วงหยิบลูกปิงปอง 2 ลูกบ้าง 3 ลูกบ้าง หรือบางคนล้วงหยิบลูกปิงปอง 6 ลูกก็มี


โดยนางอำพร สุวรรณชมพู อายุ 62 ปี ชาวบ้าน หมู่ 11 ต.ชนบท อ.ชนชท ขอนแก่น ซึ่งเป็นร่างทรงที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ และเป็นผู้ที่ฝันเห็นปู่โสมมาเข้าฝัน ว่าต้องการเปลญวนมาผูก เพื่อเป็นโต๊ะจีนคอยรองรับเพื่อนๆซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากพื้นที่ต่างๆ จะมาเยี่ยมเยียนพบปะพูดคุยกันทุกๆวันพระ จึงได้นำเปลญวนมาผูกให้จนเป็นที่มาของการนำเปลญวนมาสักการะกราบไหว้และบนบานในสิ่งที่แต่ละคนต้องการ ซึ่งหลังจากนั้นก็มีเปลญวนมาผูกกับต้นสะแกนามากขึ้นเรื่อยๆจนเต็มทั่วบริเวณป่าสะแกนาแห่งนี้





จากนั้นผู้สื่อข่าวก็ได้สำรวจรอบๆบริเวณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาว อ.ชนบท ให้ความเลื่อมใสศรัทธา และในขณะที่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวนั้น จากการสังเกตุของทางผู้สื่อข่าวพบว่า ลักษณะการพูดจาของนางอำพรเปลี่ยนไป จากภาษาอีสานธรรมดา เริ่มเปลี่ยนเป็นสำเนียงคนลาว และแทนตัวเองว่าปู่ โดยภายหลังสัมภาษณ์ นางอำพรได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อสักครู่ที่ให้สัมภาษณ์นั้น เป็นปู่โสมที่มาเข้าร่างและให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเอง โดยปกติจะไม่ค่อยมาเผยตัวตนให้เห็นหรือให้สัมผัสได้




ซึ่งในช่วงการสัมภาษณ์นั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางอำพร เกี่ยวกับที่มาที่ไปในการนำเปลญวนมาผูกแก้บนตามต้นสะแกนาในบริเวณศาลปู่ตาแห่งนี้ โดยนางอำพรังพูดเป็นสำเนียงภาษาอีสานปกติบอกว่า ปู่โสมมาเข้าฝันตนเอง อยากได้เปลญวนเป็นโต๊ะจีน ให้ตนเองเอาเปลญวนมาผูกให้หน่อย ซึ่งตอนที่นำเปลญวนมาถวายให้นั้นพื้นที่ตรงนี้มีแต่ป่า พร้อมทั้งมาทำความสะอาดถางป่าให้ไม่รก และทำความสะอาดศาลปู่ตาซึ่ง ณ ขณะนั้นศาลปู่ตายังเป็นหลังเล็กๆ ซึ่งได้มีการสร้างจนเป็นหลังใหญ่ข้างกับศาลหลังเล็กอันเดิมจนมาถึงปัจจุบัน และต่อมาก็มีคุณครูมาขอบนขอให้สอบติดครู โดยจะนำเปลญวนมาถวายหากสำเร็จ กระทั่งสำเร็จตามที่บนบานไว้จริงๆ ก็ได้นำเปลญวนมาผูกแก้บน และต่อมาเรื่อยๆก็มีคนมาขอโชคขอลาภ ขอพร ขอเลขจากการล้วงไหเงิน ไหทองที่ตั้งอยู่ด้านในศาลปู่ตาโสม เมื่อสำเร็จก็นำเปลญวนมาแก้บน มาถวาย และปู่โสมบอกกับตนเองว่ามาจากเวียงจันทร์ สปป.ลาว นั่งเรือมาและได้มาอาศัยอยู่ตรงป่าสะแกนาแห่งนี้ ซึ่งความหมายของเปลญวนที่นำมาให้นั้น หมายถึงเป็นโต๊ะจีนที่จะคอยต้อนรับเพื่อนๆของปู่จองพอ ปู่เหมราช และปู่โสม 3 องค์ซึ่งเป็นพี่น้องกัน มาพูดคุยพบปะกัน ประชุมกันทุกวันพระ



ซึ่งพอหลังจากที่นางอำพรเล่าถึงที่มาที่ไปจบ ลักษณะของนางอำพรได้เปลี่ยนไป สำเนียงน้ำเสียงเริ่มแทนตัวเองว่ากระผม และเล่าเกี่ยวกับที่มาที่ไปว่าปู่โสมมาอยู่ที่ป่าสะแกนาแห่งนี้โดยการนั่งเรือมาจาก ลาวเวียงจันทร์ มีชาวบ้านมาทำความสะอาดให้ในพื้นที่และปู่โสมก็ให้โชคลาภไป ใครมากราบไหว้ก็จะได้ทุกอย่างจากกระผม เงินคำผมแจกหมดทุกคน ให้ชาวบ้านชาวช่องเจริญเติบโตไป บางคนมาหากระผมมาดูแลกระผมก็ให้โชคกลับไป เจ็บไข้ได้ป่วยกระผมก็ช่วยเหลือ กระผมมาจากลาวเวียงจันทร์พี่น้องผมก็มาหมด มาอาศัยอยู่ในป่า เปลญวนของกระผมก็มีคนมาเอาไปแต่กระผมก็ไม่ว่าอะไร มาล้วงไหเอาเงินของพ่อไป พ่อก็ให้ ให้ได้ทุกคน แจกให้หมดทุกคนเพราะพ่อเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์



พร้อมทั้งบอกนักข่าวว่าปู่ดีใจที่มีนักข่าวมา และบอกว่านักข่าวจะถูกหวย พร้อมทั้งพูดถึงบ้านของนักข่าวได้ตรงตามที่อยู่ว่าบ้านอยู่ในลักษณะแบบไหนโดยให้ไปจุดธูปขอโชค ซึ่งจะมีต้นไม้อยู่ 1 ต้นหน้าบ้านจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิงสถิตย์อยู่ ให้หาข้าวให้เจ้าที่และเจ้าที่จะให้เงินกับนักข่าวหลายบาท เพราะนักข่าวไม่เคยขอ ซึ่งนักข่าวก็ไม่เคยขอจริงๆ ก่อนจะออกจากร่างทรงไป


ขณะที่นาง บุญร่วม เอกะ อายุ 58 ปี 170 ม.3 ต.ชนบท อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เจ้าของร้านณัฐพร เครื่องจักรสาน ซึ่งขายเปลญวนอยู่ฝั่งตรงข้ามศาลปู่ตาดังกล่าว ตั้งแต่ราคา 60 - 300 บาท กล่าวว่า ส่วนตัวได้ยินมาว่าเปลญวนคือโต๊ะจีนรับแขกของปู่ตามาประชุมกันในป่าสะแกนาแห่งนี้ ซึ่งเป็นศาลปู่ตาที่มีมานานแล้ว เมื่อก่อนมีเปลญวนมาผูกนิดเดียว แต่ปัจจุบันมีเปลญวนมาผูกเรื่อยๆ ลูกค้ามาซื้อเปลญวนที่ร้านจำนวนมาก บางคนก็สั่งเป็นร้อยก็มี หรือ อันเดียว ก็มี 9 อันก็มี เท่าที่เห็นก็พบมีประชาชนมาขอโชคขอลาภแล้วกลับมาผูกเปลญวนอยู่ตลอดตามความเชื่อความสบายใจของแต่ละคน ส่วนตัวตนเองก็เลื่อมใสไปกราบไหว้ขอพรให้มีลูกค้ามาซื้อของอุดหนุนที่ร้านเยอะๆเพราะไม่ได้เป็นคนเล่นหวย

โดย chawalwit_m

10 ก.ย. 2567

81 views

EP อื่นๆ