เปิดไทม์ไลน์ คนขับรถตู้นักเรียน กระหน่ำยิงวินจยย. ล่าสุดเข้ามอบตัวแล้ว

จากกรณี คนขับรถตู้รับส่งนักเรียน หัวร้อนชักปืนลูกโม่กระหน่ำยิงคนขับวินเจ็บ ก่อนจะขับหลบหนีไป ส่วนคนเจ็บพลเมืองดีขี่รถพาไปส่งโรงพยาบาล คาดน่าจะมาจากที่ว่าคนขับรถตู้ยืนคุยกับ รปภ. ขวางทางเข้าหมู่บ้าน


ซึ่งขณะนั้นคนเจ็บขี่รถมาส่งผู้โดยสาร จนมีปากเสียงกันถึงขั้นที่คนเจ็บไปทุบรถตู้คันดังกล่าว หลังจากนั้นในระหว่างที่คนเจ็บขับรถมาตามถนนแล้วกลับรถบริเวณจุดเกิดเหตุผู้ก่อเหตุซึ่งขับรถตามหลังมาได้เปิดกระจกแล้วยิงใส่คนเจ็บ ก่อนจะขับรถหลบหนีไป เหตุเกิดริมถนนบางพลี-หนามแดง บริเวณหน้าตลาดร้อยชั่ง ม.4 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงเย็น วันที่ 20 มกราคม 2566


ล่าสุดเมื่อช่วงสายของ วันนี้ (21 มกราคม 2566) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปไล่เรียงเหตุการณ์ทั้งหมดมานำเสนออีกครั้ง โดยทีมข่าวเราไปได้ภาพวงจรปิดตั้งแต่เริ่มแรกจนไปถึงชักปืนยิง กล้องมุมแรกที่หน้าหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ จับภาพได้ขณะที่รถตู้รับส่งนักเรียนคันก่อเหตุขับรถเข้ามาในหมู่บ้านก่อนจะจอดเลยป้อม รปภ.เข้ามา


จากนั้นชายคนขับรถตู้ลงมาจากรถเพื่อมาถามทางกับ รปภ.จังหวะที่ยืนคุยกับ รปภ.อยู่นั้น ซึ่งเป็นทางเข้าหมู่บ้านในช่องรถจักรยานยนต์ และ เป็นจังหวะที่คนขับวินคู่กรณีขับเลี้ยวเข้ามาส่งผู้โดยสารในหมู่บ้านแต่มาเจอคนขับรถตู้ยืนคุยกับ รปภ. ทำให้คนขับวินหัวร้อนไม่พอใจมีการด่าทอบางอย่าง โดยคนขับรถตู้ก็เดินกลับมาขึ้นรถเพื่อเข้าหมู่บ้านไปส่งนักเรียน กล้องวงจรปิดอีกมุมในหมู่บ้านช่วงกลางแยกจับภาพพร้อมเสียงไว้ได้ถึงสองมุม


ซึ่งพบว่าหลังจากที่รถตู้คันดังกล่าวไปส่งนักเรียนในหมู่บ้านและกำลังขับออก ปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์คู่กรณีที่มีปากเสียงกันทางเข้าหมู่บ้าน ได้ขับมาจอดขวางหน้ารถตู้จากนั้นคนขับวินรถจักรยานยนต์ก็เปิดฉากใช้เหล็กสไลด์ฟาดก้านคอคนขับ และ กระจกรถ จนคนขับต้องหนีตายออกประตูอีกฝั่ง เพื่อเอาตัวรอด ก่อนที่ต่างฝ่ายต่างจะแยกย้าย ภาพวงจรปิดที่แยกถนนหลังวัดหนามแดง จับภาพได้ขณะที่คนขับรถตู้จอดแวะถามสถานีจะไปแจ้งความของ สภ.บางแก้ว ต่อมาไม่กี่นาทีกล้องตัวสุดท้ายที่หน้าตลาดตรงจุดเกิดเหตุจับภาพนาทีลั่นไกลได้ ทั้งหมดจะถูกนำไปเป็นหลักฐานของแต่ละฝ่ายที่จะใช้ต่อสู้ทางคดี


ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวทราบว่าเมื่อเวลา 03.00น. วันที่ 21 มกราคม 2566 นายสัมพันธ์ เทศรอด อายุ 64 ปี (สงวนชื่อ)(เบลอหน้า) คนขับรถตู้ รับส่งนักเรียน ยี่ห้อ โตโยต้า สีฟ้า ทะเบียน อษ 6648 กรุงเทพมหานคร ที่ก่อเหตุให้อาวุธปืนยิง นายภูมิสิทธิ์ เรืองปรัชญาชาญ อายุ 52 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ได้รับบาดเจ็บแล้วหลบหนีไป ได้เดินทางเข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหา กับ ร.ต.ท.ประติมากร สมสมัย รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนลูกโม่ สมิท ขนาด 357 ม.ม.


นายสัมพันธ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ก่อเหตุ เล่าว่าเมื่อวานตอนเย็นตนขับรถไปส่งเด็ก ซึ่งคนนี้เป็นเด็กใหม่เลยขึ้นรถวันแรกเลย ตนก็ไปถามยามว่าบ้านหลังนี้อยู่ตรงไหน ตนก็คุยอยู่กับยาม พอคุยเสร็จแล้วตนก็เดินออกมาจากตรงนั้น เขา (คนเจ็บ) ก็ขับมอไซค์มาแล้วก็ตะโกนด่าว่าตนว่าไม่เห็นรถหรือไงตาเซ่อ ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร ตนก็เดินกลับรถไปส่งเด็กนักเรียน พอส่งเด็กเสร็จขับออกมา เขาก็ขี่รถจักรยานยนต์มากัน 2 คัน มาดักอยู่หน้ารถตน แล้วก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรตีตนที่อยู่ในรถเลย ตนพยายามเอามือหนี เอามือกัน ตีเสร็จแล้ว ตนต้องหนีไปลงอีกด้าน แล้วเขาก็ตีรถของตน จนกระจกแตก หูช้างพัง


พอตนไปลงฝั่งโน้นปุบ เขาก็ขี่รถไปเลย พอเขาไปตนก็ขับรถไปวิ่งส่งเด็กอีกคน พอส่งเด็กเสร็จ ตนก็เดินมาถามยามถึงสองคนที่มาทำร้ายตนว่าเป็นใคร ยามก็บอกว่าไม่รู้จัก อยู่วินไหนก็ไม่รู้ ตนก็เลยบอกยามว่างั้นตนจะไปคุยกับตำรวจที่ยื่นอยู่แถวนั้นแล้วกัน ตนจะไปถามตำรวจว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นของโรงพักไหนตนจะไปแจ้งความ ตำรวจก็บอกว่าเขตนี้ของ สภ.บางแก้ว ตนก็ขับรถมา ตอนนั้นประมาณ 17.30-18.00 น. รถก็ติดมาก ตอนนั้นตนเห็นมีรถมาน่าจะขับพวกแกร็บ หรือ อะไรเนี่ย ขับมาฝั่งซ้ายตน ตนก็คอยสังเกตฝั่งซ้ายมือ เขาขับไปเลี้ยวแล้วก็จอด ตนไม่ทันได้มองฝั่งขวา ฝั่งขวาขับแซงขึ้นมาตีรถตนดัง


ตีเสร็จแล้วเขาวนกลับไปฝั่งโน้น เสร็จแล้วเขาก็ไปยืนด่าตน แล้วถามว่าตนเก๋าหรือไง เขาทำท่าจะเอาเรื่องตน ตนก็กลัวมากเลย ตนก็ตกใจ การที่ตนจะขับรถหนีไปก็ทำไม่ได้เพราะรถมันติด แล้วเขาก็ทำท่าอย่างนั้นตนตกใจมาก ตอนนั้นตนก็ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว เพราะว่าตนก็พึ่งโดนมาแล้ว ตนก็เลยหยิบปืนยิงไปเลย ไม่เล็งใครเลย ใส่ไปอย่างนั้น 3-4 นัด ตอนนั้นตนไม่ได้ยิงตรงเป้าเลย ตนก็ยิงไปอย่างนั้นเลย ตนไม่ได้หวังผลว่าจะโดนคนหรืออะไร ตนก็ไม่รู้ว่ายิงโดนเขา เพราะถ้าเขาโดนก็ต้องมีอาการนอนหรือว่าอะไรสักอย่าง


แต่ตอนตนยิงไปเขายังเฉยอยู่เลย ตนเลยขับรถหนีไป ในส่วนปืนที่ตนใช้ก่อเหตุ มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ปกติไม่ได้ติดรถไว้ตลอด พอดีปืนนี้ผมติดรถไว้อีกคันนึง ตนเอาไปไร่ปากช่องมา แล้วเอาไว้ในรถปิคอัพประมาณ 3-4 วัน ตนก็นึกได้ตอนจะเอารถตู้ออกมาจากบ้านตนก็ไปหยิบมาใส่กระเป๋า ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่เกิดเหตุพอดีเลย หลังจากก่อเหตุตนก็ไปปรึกษากับญาติพี่น้อง ว่าจะเอายังไง แล้วก็ไปเล่าให้กับน้อง ๆ ญาติ ๆ ฟัง ว่าเป็นอย่างนี้ควรจะมาสู้คดีกัน ตนก็เลยมามอบตัว หลังจากสอบปากคำเสร็จตนก็จะแจ้งความกลับด้วย ส่วนคดีความที่ตนเป็นคนผิดก็ว่าไปตามนั้น ผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่มีปัญหา ส่วนตัวรู้สึกเสียใจที่ทำลงไป ตนอายุขนาดนี้แล้วมามีเรื่องมีราวตรงนี้ มันอาชีพของตนด้วย


ด้าน พ.ต.อ.มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว หลังจากเมื่อคืนที่เกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ว่ามีพลเมืองดีได้แจ้งเข้ามาที่ สภ.บางแก้ว ว่าได้มีเหตุยิงกันระหว่างผู้เสียหายกับผู้ต้องหา ตรงบริเวณหน้าตลาดร้อยชั่ง ถนนหลังวัดหนามแดง ซอยไปรษณีย์ ก็ไปตรวจที่เกิดเหตุแล้วก็พบว่ามีเหตุการณ์ยิงกันจริง เป็นเหตุการณ์ระหว่างรถตู้กับมอเตอร์ไซค์ มอเตอร์ไซค์เป็นผู้บาดเจ็บแล้วถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ในส่วนของผู้กระทำความผิดก็ได้หลบหนีไป หลังจากที่รวบรวมพยานหลักฐาน รวบรวมเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ก็ทราบว่าผู้กระทำความผิดเป็นคนขับรถตู้ที่หลบหนีไป ว่าเป็นใคร


หลังจากนั้นเราก็ได้ติดตามไปที่บ้านพัก ไปพบกับญาติพี่น้องของผู้กระทำความผิด แล้วก็ได้พูดคุยกันระหว่างญาติพี่น้องของผู้กระทำความผิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้มีการติดต่อประสานงานไปกับผู้กระทำความผิด จนสุดท้ายผู้กระทำความผิดก็ติดต่อกลับมาว่าเดี๋ยวจะเข้ามามอบตัว เพราะว่าตอนนี้คือจากความตกใจด้วย แล้วก็ได้กระทำไปแล้ว ก็ได้หลบหนีไป


สุดท้ายวันนี้ก็ได้เข้ามามอบตัวแล้ว อยู่ที่ สภ.บางแก้ว ในส่วนของข้อหาที่เราจะแจ้งกับผู้กระทำความผิด ก็เป็นข้อหาพยายามฆ่า แล้วก็การพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ในส่วนของเหตุการณ์ประกอบที่เกี่ยวข้องนั้น ทางผู้กระทำความผิดก็จะได้มีการแจ้งความเพิ่มเติมกับผู้บาดเจ็บ กรณีที่ได้มีการทำร้ายร่างกายกัน ตรงนั้นเราก็ต้องแยกเป็นคดีไป ว่าคดีของการทำให้เสียทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย กับคดีพยายามฆ่า


อยากจะฝากถึงประชาชน ว่า เรามีเจ้าหน้าที่อยู่แล้วในส่วนของการจะให้ความเป็นทำกับผู้กระทำความผิด หรือจะต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ตรงก็อยากจะบอกว่าถ้าเป็นไปได้เมื่อมีเหตุแล้วเนี่ยก็เข้ามาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดีกว่า บางครั้งการตัดสินใจจากอารมณ์ ซึ่งก็จากเหตุการณ์นี้ก็เป็นการกระทำที่ต่อเนื่องมา 2 คดี แล้วมีการบันดาลโทสะ หรือว่ามีการที่มีความรู้สึกว่าเราถูกกระทำมากจนเกินไปแล้วได้กระทำการอันรุนแรงไป มันก็มีโอกาสที่เราจะต้องเป็นผู้กระทำความผิดต่อไป แต่ถ้าเมื่อเราถูกใครกระทำเป็นไปได้ก็เข้ามาแจ้งความกับสถานีตำรวจ


แล้วก็ให้ตำรวจดำเนินคดี ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายดีกว่า เมื่อใครทำผิดยังไงทางกฎหมายเนี่ย มีข้อกฎหมายที่จะสามารถลงโทษได้อยู่แล้ว เราเอาเรื่องทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายดีกว่า เราจะได้ไม่ต้องเป็นผู้กระทำความผิดต่อไป ส่วนที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าฝ่ายของคนเจ็บมากัน 2 คน ก็ตามรูปการทั้งหมดถ้ามีการแจ้งความ เราก็ต้องไปสืบสวนหาข้อมูลความเป็นจริงเพื่อที่จะมาดำเนินการในกระบวนการยุติธรรม ให้ครอบคลุมที่สุด เพราะทุกอย่างมันจะมีพยานบุคคลอยู่แล้ว แล้วก็พยานทางวัตถุพยาน ทั้งกล้องวงจรปิด หรือสิ่งต่าง ๆ เพราะว่าเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องเราสามารถหาข้อมูลทางพยานหลักฐานมาดำเนินการได้


ผู้หญิงที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อวานตนเห็นรถตู้เขาขับมาจอด ซึ่งขณะนั้นตนนั่งซักผ้าอยู่ ได้ยินเสียงดังปัง ก็เลยลุกขึ้นดู เห็นมอไซค์เขาเอาไมท่อนเหล็กฟาดกระจกเขาแตก แล้วได้ยินเสียงว่า มึงอย่าดึงดิ มึงอย่าดึง สงสัยน่าจะเอาเหล็กทิ่มไปที่ลุง แล้วลุงน่าจะจับเหล็กได้ แล้วลุงบอกว่ามึงปล่อยสิ แล้ววินมอไซค์ก็บอกว่ามึงอย่างดึงดิ อย่าดึง แล้วลุงคงปล่อย ตนก็เห็นเป็นด้ามเหล็ก มันน่าจะหุบได้ แล้วเขาก็เก็บแล้วก็ขี่มอไซค์ออกไป


แล้วลุงเขาก็จอดคุยกับบ้านข้าง ๆ แปบนึง ลุงเขาบอกเกือบโดนทิ่มตา ดีเขาหลบทัน แล้วลุงก็ออกไปที่หลังเขาอีก ลุงขับเข้าเด็กในซอยแต่ตนไม่รู้ว่าหลังไหน แกบอกว่าลุงพึ่งมาครั้งแรก ส่วนวินมอไซค์คนดังกล่าวตนก็ไม่เคยเจอ เพราะตนก็ไม่เคยใช้บริการเลยไม่เคยเจอ แต่เห็นคนอื่นๆ เขาบอกว่าก็เก๋าอยู่เหมือนกัน

โดย parichat_p

21 ม.ค. 2566

282 views

EP อื่นๆ