‘รองแม่ทัพภาค 4’ เผย รู้ตัวผู้ก่อเหตุระเบิด 2 ปั้ม ที่ปัตตานีแล้ว เชื่อ หวังทำลายความเชื่อมั่นรบ.

“รองแม่ทัพภาคที่ 4” เผย รู้ตัวแล้ว กลุ่มผู้ก่อเหตุวางระเบิด 2 ปั้ม ที่ปัตตานี เชื่อ หวังทำลายความเชื่อมั่นรัฐบาล ช่วงการประชุมเอเปค

กรณีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดปั้มน้ำมัน จำนวน 2 แห่งในพื้นที่ จ.ปัตตานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนจะขี่ จยย.หลบหนีไป กระทั่งเกิดระเบิดขึ้น ประชาชนหนีตายจ้าละหวั่น ล่าสุด วันนี้ (16 พ.ย.) พลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่ปั้มน้ำมัน ปตท. ต.บานา ซึ่งได้รับความเสียหายหนัก โดยภายในปั้ม ปตท.มีเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดกำลังตรวจสอบความเสียหายรวมไปถึงค้นหาวัตถุพยานเพิ่มเติม เช่นเดียวกับที่ปั้มน้ำมันพีที ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดก็ได้เข้าตรวจหาวัตถุพยานเช่นเดียวกัน




ซึ่งในเบื้องต้นพบชิ้นส่วนระเบิดจำนวนหนึ่งและปลอกกระสุนปืนกระจายไปทั่วบริเวณจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพขณะคนร้ายก่อเหตุได้ชัดเจน ซึ่งหลักฐานทั้งหมดถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี นอกจากนี้ชุดปฏิบัติการณ์ร่วมได้เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่เป้าหมายในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ปะนาเระ ซึ่งผลการปฏิบัติไม่พบบุคคลต้องสงสัยคาดว่าน่าจะไหวตัวทันหลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว สำหรับกลุ่มที่ก่อเหตุนั้น ชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง ระบุว่า เหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม


โดยกลุ่มที่ก่อเหตุปั้มน้ำมัน ปตท. ต.บานา น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่ม นายอับดุลเลาะ มะเด ผู้ต้องหาที่มีหมายจับคดีความมั่นคงและเป็นแกนนำมือระเบิดในพื้นที่ ส่วนกลุ่มที่ก่อเหตุที่ปั้มน้ำมันพีที น่าจะเป็นกลุ่ม นายสุไลมาน สุหลง ผู้ต้องหาที่มีหมายจับคดีความมั่นคงและเป็นมือวางระเบิดในพื้นที่ อ.ปะนาเระ




พลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการชุดเฉพาะกิจในพื้นที่เข้ามาควบคุมที่เกิดเหตุทั้ง 2 จุด และให้ยกระดับรักษาความปลอดภัย 100 % ซึ่งเป็นมาตราการณ์ที่สอดคล้องกับการเตรียมการประชุมเอเปค ซึ่งหลังเกิดเหตุเมื่อคืนก็ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการณ์พิทักษ์พื้นที่เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทันที รวมไปถึงเข้าคุมเข้มปั้มน้ำมันกลุ่มเสี่ยง

ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะรู้กลุ่มรู้ตัวและดำเนินการจับกุมได้แน่นอน สิ่งที่คนร้ายก่อเหตุมีความพยายามทำลายภาพลักษณ์ด้านเศรษฐกิจหวังทำลายความเชื่อมั่นของรัฐบาล ส่วนเหตุจูงใจในการก่อเหตุนั้น มีหลายปัจจัย เช่น คนร้ายพยายามสร้างความรุนแรงที่ไม่ละความพยายามสร้างความเดือดร้อน โดยเฉพาะเหตุครั้งนี้คล้ายกันเมื่อวันที่ 17 สค.ที่ผ่านมาที่คนร้ายก่อเหตุพร้อมกัน 20 จุด เริ่มจากทำร้ายคนหาของป่า ทำร้ายเจ้าหน้าที่ และลอบวางระเบิดปั้มน้ำมัน ซึ่งกลุ่มพวกนี้ก็ยังคงดำเนินการสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงการทำร้ายความเชื่อมั่นของรัฐบาลในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะช่วงนี้ใกล้การประชุมเอเปค จึงอยากฝากยังประชาชนว่า คนร้ายได้สร้างความเดือดร้อนความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สิน ฉะนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องบังคับใช้กฎหมายกับผู้ก่อเหตุเหล่านี้ เช่นกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดพร้อมกัน 20 จุดมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 8 ราย เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้บังคับใช้กฎหมายสามารถออกหมายจับคนร้ายได้จำนวน 17 หมาย 16 คน จับกุมได้แล้ว 6 คนและมี 1 รายเสียชีวิตจากเหตุปะทะ ล่าสุดจับกุม นายสูนสิบลี มะเซ็ง ตามหมายจับคดีลอบวางระเบิดปั้มน้ำมันบางจาก



ส่วนกลุ่มเห็นต่างออกมาประกาศจุดยืนว่าจะไม่สร้างความรุนแรงในช่วงการประชุมเอเปค แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่วางใจ เพราะที่ผ่านมายังคงเกิดเหตุต่อเนื่อง ซึ่งทางฝ่ายความมั่นคงต้องตรวจสอบอีกครั้งว่า เอกสารที่ประกาศนั้นเป็นของปลอมหรือของจริง

โดย JitrarutP

16 พ.ย. 2565

39 views

EP อื่นๆ