มงลงเม็กซิโก มิสยูนิเวิร์ส 2020 กูรูเคาะสาเหตุที่นางงามละตินเข้ารอบสุดท้ายถึง 4 คน

ประเด็นการแพร่ระบาด โควิด-19 กลายเป็นหนึ่งในคำถาม ที่ถูกหยิบยก มาทดสอบไหวพริบและความสามารถของสาวงาม บนเวที มิส ยูนิเวิรส์ ประจำปี 2020 ซึ่งปรากฎว่า สาวงามตัวแทนจาก เม็กซิโก ชนะใจกรรมการ ครองมงกุฎ มิสยูนิเวิร์ส คนใหม่ ประจำปี 2020 สำเร็จ

การประกวดมิสยูนิเวิร์ส ครั้งที่ 69 ประจำปี 2020 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองฮอลลีวู้ด รัฐฟลอริด้า ของสหรัฐฯ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับช่วงเช้า วันนี้ตามเวลาไทย ปีนี้ ทำเอาแฟนนางงามจากเมืองไทย ที่ตั้งใจเชียร์ อแมนด้า ชาลิสา ออบแมน สาวงามจากประเทศไทย ต้องอกหักไปตามๆกัน เพราะ อแมนดา ซึ่งถือว่า เป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส ปีนี้ ได้ผ่านเข้ารอบลึกที่สุด แค่ รอบ 10 คนสุดท้ายเท่านั้น

สำหรับ สาวงาม 2 คนสุดท้าย ที่ได้จับมือแบบรักษาระยะห่าง หรือ จับมือทิพย์ กันบนเวที เพื่อลุ้นผล ผู้ที่จะครองมงกุฎมิสยูนิเวิร์ส ในยุคโควิด-19 ได้แก่ แอนเดรีย เมซ่า สาวงามจาก เม็กซิโก และ จูเลีย การ์ม่า จากบราซิล ซึ่งปรากฎว่า เมซ่า สาวงามจากเม็กซิโก ชนะใจกรรมการ คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส ปี 2020 ไปครองได้สำเร็จ ปัจจุบัน เมซ่า อายุ 26 จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมซอฟต์แวร์ พูดได้สองภาษา ทั้งสเปน และ อังกฤษ เธอสนใจในกิจกรรม ณรงค์การยุติความรุนแรงทางเพศ ยังเป็นนักเคลื่อนไหวสิทธิสตรี , การแบ่งแยกเชื้อชาติและสีผิว

ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส รอบ 5 คนสุดท้าย มีการตอบคำถามสดๆ ที่มาจากเพื่อนนางงาม และ คณะกรรมการ ซึ่งดูเหมือนว่า สถานการณ์โควิด-19 กลายเป็นประเด็นที่ทุกคนให้ความสนใจ นำมาตั้งคำถาม เพื่อฟังความเห็นของสาวงาม

เริ่มจาก เมซ่า เจ้าของมงกุฎมิสยูนิเวิร์สคนล่าสุด เลือกซองคำถามที่ว่า หากเธอเป็นผู้นำประเทศ เธอจะจัดการกับสถานการณ์โควิด อย่างไร ซึ่งเธอ คิดว่า มาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดการสูญเสียชีวิตของผู้คน

ขณะที่ Adline Castelino สาวงามจากอินเดีย วัย22 ปี ซึ่งหายจากการติดเชื้อ โควิด-19 ได้ทัน ก่อนเดินทางเข้าประกวด ได้ตำแหน่ง รองอันดับ 3 ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับมาตรการล็อกดาวน์ รับมือโควิด-19 ที่เสี่ยงกระทบเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งได้อย่างมั่นใจ ว่าสุขภาพเรื่องสำคัญที่สุด และว่ารัฐบาลและประชาชนต้องทำงานร่วมกัน เพื่อรับมือกับโควิด-19

เวทีประกวดมิสยูนิเวิร์สปีนี้ บรรดาผู้ประกวดจากหลายประเทศยังพยายามส่งข้อความต่อต้านทั้งการเหยียดเอเชีย, การเลือกปฏิบัติกับกลุ่ม LGBTQ และรัฐประหารเมียนมาด้วย ซึ่งทำให้ธูซาร์ วินท์ ลวิน (Thuzar Wint Lwin) สาวงามจากเมียนมา คว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม เนื่องจากเธอนำเสนอชุด ที่ส่งข้อความจากชุดประจำชาติทรงพลัง พร้อมกับการชูป้าย เพร์ย ฟอร์ เมียนมา (Pray for Myanmar) ที่หมายความว่า สวดภาวนาให้เมียนมา

ผู้สื่อข่าได้มีโอกาสได้คุยกับ คุณธเนษฐ์ ลักษณวิลาส ผู้ร่วมก่อตั้งเพจ T- Pageant ให้ความเห็นว่า การประกวดนางงามถึงแม้ว่าจะเป็นความบันเทิง แต่วันในสถานการเช่นนี้ โลกกำลังเผชิญกับปัญหาโควิด ประเด็นนี้ จึงเป็นที่สนใจและ เวทีใช้ในการวัดความความคิดเห็นของนางงามหลายคำถาม

ส่วนผู้ชนะ "แอนเดรีย เมสา" ถือว่าอยู่ในสายตาสื่อมาตลอด ถูกจับตาในฐานะที่เคยได้ตำแหน่งรองฯเวทีมิสเวิร์ล ในหลายปีก่อนหน้า นางงามลุ๊คแบบนี้เป็นพิมพ์ของนางรอง และจะจบที่ตำแหน่งรองอันดับ1 หรือ 2 แต่เธอมีบุคลิกโดดเด่น เฟียซ มีเอกลักษณ์ จึงคว้ามงกุฎไป

ส่วนหลายคนตั้งคำถามว่าทำไม นางงามลาตินถึงเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ถึง 4 คน ส่วนตัวมองว่าเป็นการเจาะตลาดและดึงฐานของแฟนนางงามในภูมิภาคนี้

ขณะที่ อแมนด้า ที่ไปได้ไกลสุดในรอบ 10 คนสุดท้าย คุณตี๋บอกว่าจริงๆแล้วน้องมีศักยภาพเข้าได้ถึงรอบ 5 คน และไปได้ไกลกว่านั้น แต่ด้วยหลายๆปัจจัยทำให้น้องไปได้แค่นี้ และการประกวดในรอบไฟนอล ที่ไม่ได้พร่องในส่วนไหนเลย และไม่ได้เป็นความผิดน้อง ซึ่งก็ต้องให้กำลังใจกันต่อไป

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/bxqldMPTHeE