เปลี่ยน 4 ชุดสู้ไมค์สื่อ ‘แอนนา’ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาปม ‘หวยทิพย์’ ประกันตัว 7.5 หมื่นบาท

'แอนนา’ ปฏิเสธทุกข้อหาคดีหวยทิพย์ ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว 75,000 บาท ยืนยันไม่ใช่เจ้าของ

วานนี้ (6 มิ.ย.) หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้ควบคุมตัว แอนนา หรือนายวรินทร วัตรสังข์ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากเดินทางกลับมาจากประเทศฝรั่งเศส เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.

ซึ่งก่อนหน้านี้ 'แอนนา' โดนหมายจับคดีหวยทิพย์ ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันเล่นการพนันสลากกินรวบพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน  

จากนั้นเวลาประมาณ 09.30 น. เจ้าหน้าที่ได้นำตัวแอนนา มาที่ สน.ทองหล่อ โดยพนักงานสอบสวนได้รับตัว แอนนา เข้าไปในห้องสืบสวน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งต่อมา นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความของ แอนนา เดินทางมาถึงที่ สน.ทองหล่อ โดยได้เตรียมหลักทรัพย์มาประกันตัว แอนนา พร้อมทั้งมี พ่อ แม่ และกลุ่มเพื่อนของแอนนา ก็ได้เดินทางมารอให้กำลังใจ แอนนา ด้วย

ภายหลังเสร็จสิ้นการรับทราบข้อกล่าวหาและให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่ สน.ทองหล่อ และทำเรื่องประกันตัว นาน 6 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้ประกันตัว ใช้หลักทรัพย์ 75,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไขการประกันตัว และยังไม่ได้ระบุว่านัดให้เข้ามาพบอีกครั้งเมื่อไหร่ ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานมามอบให้กับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม

จากนั้น ‘แอนนา’ ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้ไม่รู้สึกเครียดและไม่กดดันอะไรแล้ว ที่เครียดคือ เครียดก่อนมามากกว่า เพราะก่อนหน้านี้เจอข่าวเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นข่าวที่บอกว่าหนีออกนอกประเทศ จะไม่กลับมาแล้ว และไม่มาร่วมงานศพของเพื่อน

ส่วน 3 ข้อหา ที่พนักงานสอบสวนแจ้งนั้น ‘แอนนา’ ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยเผยว่า ตนเองรับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับโชคดีลอตเตอรี่ออนไลน์เท่านั้น มีการเซ็นสัญญา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 มีค่าตอบแทนเดือนละ 1 แสนบาท โดยมีหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักบริษัท และมาซื้อลอตเตอรี่เท่านั้น

และไม่ได้มีอำนาจใด ๆ ไม่รู้รายละเอียดของบริษัททั้งต้นทุน กำไร หรือแม้แต่บริษัทขายลอตเตอรี่ออนไลน์ได้วันละกี่ใบตนเองก็ยังไม่ทราบ ทั้งนี้การที่ตกลงรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ ไม่ได้มองว่าเป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย หากรู้ว่าผิดกฎหมาย ก็คงไม่ทำ คงไม่เลือกจะทำผิดเพื่อแลกกับเงิน 1 แสนบาทมองว่ามันไม่คุ้มกัน ยืนยันว่าบริสุทธิ์ใจ

ส่วนกรณีที่ตนมีชื่อเป็น 1 ใน 3 กรรมการที่จดทะเบียนบริษัทนั้น ‘แอนนา’ บอกว่าเนื่องจากตอนแรกที่จะจัดตั้งบริษัท ทางเจ้าของได้มีการมาทาบทามว่า หากตนเป็นแค่พรีเซนเตอร์ อาจไม่ทำให้ลูกค้าอยากซื้อเท่าไหร่ แต่ถ้าให้มารับบทเป็นซีอีโอหรือเป็นเจ้าของเลย น่าจะทำให้คนสนใจบริษัทมากยิ่งขึ้น ซึ่งตนเองก็มีความชอบลอตเตอรี่อยู่แล้วจึงตอบตกลง อีกทั้งในเรื่องของการจัดตั้งบริษัทที่เป็นนิติบุคคล ก็ต้องใช้บุคคลมากกว่า 3 คนขึ้นไปอยู่แล้วทางบริษัทจึงได้ขอความร่วมมือกับตนด้วย

ส่วนประเด็นที่ ‘ต๊ะ บอยสเก๊าท์’ เข้าใจผิดว่า ‘แอนนา’ เป็น CEO นั้น ‘แอนนา’ ยอมรับว่าที่ผ่านมา ไม่ได้มีการแจ้งพี่เขาก่อน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตนจึงรีบออกมาพูดให้ชัดเจน โดยความสัมพันธ์ของตนเองและต๊ะ ยังรักกันดีเหมือนเดิม

และหลังจากเกิดปัญหาขึ้น ‘แอนนา’ ก็ได้ยกเลิกสัญญาพรีเซนเตอร์ไปตั้งแต่ เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยบอกว่า หลังจากเกิดปัญหาขึ้น ก็ได้มีการสอบถามกับเจ้าของตลอดว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งทางเจ้าของก็ชี้แจงว่าเป็นปัญหาภายใน เนื่องจากมีคนมาขายสลาก แต่ไม่นำของมาให้ ‘แอนนา’ จึงบอกให้รีบจัดการเพราะตนเองไม่ทราบเรื่องด้วย แต่ต้องมาเป็นคนรับหน้าแทน

'แอนนา' ย้ำว่า ที่ตนเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ใช่เพราะหนี แต่ตนมีปัญหาทางด้านจิตใจจากเรื่องของแตงโม จึงต้องการที่จะไปพักผ่อนเป็นเวลา 1 เดือน แต่บังเอิญว่าเกิดเรื่องขึ้นตอนที่อยู่ที่ต่างประเทศพอดี ยืนยันว่าตนเองไม่มีเจตนาหลอกลวงผู้บริโภค และไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจดังกล่าว

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ ‘แอนนา’ ออกมาเรียกร้องว่า "สิทธิ์ผู้ต้องหาไม่มีอยู่จริง" เนื่องจากถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ถ่ายคลิปตนเองตั้งแต่นาทีแรกที่ตนเองลงจากเครื่อง แล้วส่งให้กับสื่อมวลชน โดย แอนนา โพสต์ข้อความว่า “สิทธิผู้ต้องหาไม่มีอยู่จริงโดนตม.ถ่ายรูปถ่ายคลิปตั้งแต่นาทีที่ลงเครื่อง Welcome to Thailand”

‘แอนนา’ ยอมรับว่าตกใจ เพราะตนเองได้บอกเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่าอย่าเพิ่งถ่าย เนื่องจากตนยังไม่สะดวก ก็ไม่คิดว่าตำรวจจะถ่ายคลิปตอนควบคุมตัวแล้วส่งต่อให้กับสื่อ แต่ก็ไม่ได้โกรธสื่อมวลชนที่นำภาพมาลงเพียง แต่คิดว่าหากเป็นคนธรรมดาแล้วถูกกล่าวหาก็จะเป็นตราบาปไปตลอดชีวิต หากศาลตัดสินว่าไม่ผิด แต่ตนเป็นคนที่อยู่ในสื่อ หากศาลตัดสินว่าไม่ผิดตนก็สามารถออกมาพูดได้

‘แอนนา’ บอกว่าไม่มีกังวลเรื่องคดีความ แต่ที่กังวลคงเป็นเรื่องการพาดหัวข่าว ที่มีการพาดหัวข่าวว่า แอนนาถูกรวบคาสนามบิน ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะเธอประสงค์มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยตนเอง โดยเดินทางมาคนเดียว แต่พอเห็นตำรวจมากันเยอะ ก็รู้สึกตกใจ และยิ่งเสียใจมากเมื่อรู้ตัวว่าโดนเจ้าหน้าที่ถ่ายคลิปตอนลงจากเครื่อง ทั้งที่มีกฎหมายคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล 

นอกจากนี้ ‘แอนนา’ ยังได้เผยถึงเรื่องที่เคยโพสต์ตัดพ้ออยากย้ายประเทศด้วย โดย ‘แอนนา’ บอกว่า เธอเลิกกับสามีประมาณ 2 ปีก่อน ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กันมานานมาก และใช้ชีวิตเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว พร้อมยอมรับตรง ๆ ว่าอยากมีสามีชาวต่างชาติ อยากไปอยู่อเมริกา

และ อีกอย่างตอนนี้เธอ กินยาโรคซึมเศร้า 6 เม็ดแล้ว และมันกัดกระเพาะ ปัสสาวะเป็นเลือด ซึ่งเกิดจากไตที่ทำงานหนัก รู้สึกว่ารับตัวเองไม่ได้เวลาที่โดนสังคมวิพากษ์วิจารณ์ ก็เลยคิดว่าถ้ายังอยู่แบบนี้ต่อไป เราน่าจะตายภายใน 3 วัน 7 วัน ก็เลยก็อยากไปอยู่ในที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครตัดสินเรา และใช้ชีวิตที่มันเรียบง่ายดีกว่า เพราะ 30 วันที่หายไป แอนนา บอกว่าตัวเองมีความสุขมาก

อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกโซเชียลเมื่อวานนี้ ตั้งแต่ตอนที่ แอนนา ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณ จนมาถึงตอนสัมภาษณ์ ที่ สน.ทองหล่อ ก็คือเรื่องที่ ‘แอนนา’ เปลี่ยนชุดทั้งหมด 4 ชุด ซึ่ง ‘แอนนา’ บอกว่า เป็นความตั้งใจของตนเอง ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี และอยากมาแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง และวันนี้มีสื่อมวลชนมาเยอะ มีไมค์มาเยอะขนาดนี้ จึงตั้งใจเปลี่ยน 4 ชุดไปเลย