บันเทิง

'หนุงหนิง สิงหราช' พบ ปอท.ยันไม่มีเอี่ยวยาเสพติด-ฟอกเงิน เชื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก

โดย kanyapak_w

6 พ.ค. 2565

102 views

หนุงหนิง สิงหราช พบตำรวจ ปอท.ยืนยันความบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวข้องยาเสพติดและฟอกเงิน เชื่อว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์มาหลอก



เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 พ.ค. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม."หนุงหนิง สิงหราช”นายสุวัฒน์ ทับทวี อายุ 47 ปี  นักแสดงตลกเจ้าของบท"จ่าสิงห์" ในละครเรื่อง ผู้กองเจ้าเสน่ห์ ทางทีวีช่อง 3 และ ช่อง one31 เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สถา ด้วงเอียด รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปอท. แจ้งความ กรณีที่ถูกกลุ่มบุคคลสงสัยว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง ชลบุรี โทรศัพท์มาพยายามเอาข้อมูลส่วนตัว



นายศุภฤกษ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค.เวลากลางคืน มีโทรศัพท์หมายเลข 0614341927 โทรศัพท์มาหาตนก่อนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอแอดไลน์เพื่อสนทนา ขณะที่ตนอยู่ที่บ้านพัก ซึ่งตนเห็นเบอร์แปลกๆ จึงบอกภรรยาให้เตรียมหยิบมือถือถ่ายอัดคลิปไว้ก่อนรับสายทางไลน์ที่ใช้ชื่อ สภ.ชลบุรี โดยสายที่โทรศัพท์มาขอเปิดกล้องให้เห็นหน้าเพื่อยืนยันว่าเขาเป็นตำรวจจริงชื่อ ส.ต.ท.ภานุรุต ปัญญาบุญ แจ้งว่าเมื่อวันที่ 3 มี.ค.65 ได้มีการนำข้อมูลส่วนตัวของตนไปใช้เช่ารถ กะบะฟอร์ดเลนเจอร์สีขาว ทะเบียน สก 4420 ชลบุรี เป็นรถในคดีจราจร ซึ่งตนเอง ปฏิเสธไปไม่เกี่ยวข้อง ไม่รู้จัก ไม่เคยมีรถกระบะดังกล่าว ตนมีหลักฐานยืนยันว่าวันเวลาดังกล่าวสามารถตรวจสอบได้จากเฟซบุ๊กส่วนตัวขณะนั้นอยู่ที่บ้านแฟน ชัยบาดาล จ.ลพบุรี



จากนั้นก็ปลายสายขอทราบว่าข้อมูลส่วนตัวของตนรั่วไหลไปทางใดหรือเปล่า ตนตอบไม่ทราบ แต่จำได้ว่าหลายเดือนก่อน เคยให้ข้อมูลไปกับบุคคลหนึ่งที่ทำโครงการจิตอาสากลุ่มหนึ่ง ที่ จ.เชียงใหม่ ขอเอกสารข้อมูลจะไปออกบัตรสมาชิก จึงให้ไปทั้งเลขบัญชีธนาคาร บัตรประชาชน รูปถ่าย



จากนั้นเขาได้วิทยุสื่อสาร สอบถามฝ่ายทะเบียนของ สภ.ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่าชื่อและเลขบัตรประชาชนของตนไปเกี่ยวข้องการคดียาเสพติดและการฟอกเงิน ของนายวิชิต สง่างาม โดยมีชื่อตนได้ขายบัญชีธนาคารกสิกร กับคนรายในราคา 1.2 หมื่นบาท ในช่วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา มีเงิน 6.9 ล้านบาทเข้ามา ก่อนยอดเงินในบัญชีหายไป 2.5 ล้านบาท ผกก.สภ.ชลบุรี มีคำสั่งให้ติดตามเงินที่หายไปขอตรวจสอบบัญชีผู้ต้องสงสัยทั้งหมดในคดี ขอให้ทำการสอบสวนอย่างละเอียด และแจ้ง ว.5 ไปยัง ทาง พ.ต.อ. ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.ชลบุรีทราบ พร้อมกับให้อายัดเงินในบัญชีทั้งหมด



ตนรู้สึกตัวว่าน่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาละวาดหลอกลวงให้โอนเงิน ได้สอบถามชื่อตำรวจที่โทร.มาอีกครั้ง ก่อนจะคุยต่อด้วยการสวมบทเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซะเลย โดยถามกลับไปว่า เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจไม่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดและการฟอกเงินดังกล่าว ตนจะต้องทำอย่างไรบ้าง เขาแจ้งว่า ผกก.ได้ให้ตรวจสอบ 1.)นายพิชิต ซื้อสมุดบัญชีจากตนไปราคา 1.2 หมื่นบาทจริงหรือไม่ ตนปฏิเสธว่าไม่ได้ซื้อ 2.)นายพิชิต ได้โอนเงินจำนวน 2.5 ล้านบาทไปบัญชีสุวัฒน์ ทับทวี ของตน ปฏิเสธว่าไม่จริง 3.)นายพิชิต ที่ถูกจับกุมได้ ระบุว่าตนของ 10เปอร์เซ็นต์ของการฟอกเงิน ตนปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง



ปลายสายแจ้งต่อว่า ถึงแม้ตนจะปฏิเสธแต่ก็ยังตกเป็นผู้ต้องสงสัย แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะตกเป็นผู้ต้องหา เขาขอทำการตรวจสอบบัญชีของสุวัฒน์ ทับทวี ทั้งหมดทุกบัญชี ขอแค่เลขบัญชขี 4 ตัวท้ายเท่านั้นและเป็นบัญชีอะไรบ้างเพื่อทำการเปรียบเทียบกับบัญชีคนร้าย ตนจึงปฏิเสธไม่ยอมให้  เขาขู่ว่าถ้าไม่ยอมบอกก็ให้รอหมายเรียกมาเพื่อไปพบที่ สภ.ชลบุรี ถ้าไม่ไปพบก็จะออกหมายจับ โดย พ.ต.อ. ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.ชลบุรี จะทำการอายัดบัญชีธนาคารของตนทุกบัญชีไว้ก่อน จากนั้นก็วางสายไป



วันนี้จึงมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่เกี่ยวข้อง กับขบวนการค้ายาเสพติดและการฟองเงินแต่อย่างใด


เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบก่อนแนะนำผู้เสียหายแจ้งความทางออนไลน์ก่อน



พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนประชาชน เกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงเหยื่อโดยทำให้ตกใจกลัวว่าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดที่มีอัตราโทษสูง เช่น ยาเสพติด ค้ามนุษย์ ฟอกเงิน เป็นต้น นอกจากนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์



พยายามใช้เทคโนโลยีทุกรูปแบบเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้เหยื่อหลงเชื่อ ในส่วนของการสืบสวนปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นมีการจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง  อยากฝากให้พี่น้องประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารโดยเฉพาะรูปแบบการกระทำความผิดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีการพัฒนารูปแบบการหลอกลวงอยู่โดยตลอด เพื่อที่จะรู้เท่าทันไม่ตกเป็นเหยื่อ และขอยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีนโยบายให้ประชาชนโอนเงินในบัญชีธนาคารมาให้เจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบและหากพี่น้องประชาชนพบว่า มีบุคคลใดแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือขอให้ท่านโอนเงินไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ให้สันนิษฐานว่าอาจเป็นมิจฉาชีพมาหลอกลวงท่าน อย่าหลงเชื่อ และกรุณาแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง



คุณอาจสนใจ

Related News