‘แม่ชีจู๊ด’ ร่ำไห้แจ้งความกลับ ‘เฟี้ยว์ฟ้าว’ วอนหยุดเรื่องไม่จริง ให้สมกับที่บอกคนอื่นว่าปฏิบัติธรรม

‘แม่ชีจู๊ด’ อดีตผู้จัดการ ‘เฟี้ยว์ฟ้าว’ ร่ำไห้ แจ้งความกลับ เฟี้ยว์ฟ้าว ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หลังพูดใส่ความเรื่องไม่จริง วอนอยากให้พอแล้วกับเรื่องไม่จริง ให้สมกับที่บอกคนอื่นว่าไหว้พระ ปฏิบัติธรรม

ประเด็นปัญหาระหว่าง ‘เฟี้ยว์ฟ้าว สุดสวิงริงโก้’ กับอดีตผู้จัดการ ‘แม่ชีจู๊ด’ ที่ได้บวชชีตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา  โดยเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา เฟี้ยว์ฟ้าว พร้อมด้วยพี่ชาย ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตผู้จัดการ ที่ สน.บางเขน ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และข้อหายักยอกทรัพย์ เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 7 หลัก หลังทำธุรกิจบริษัททัวร์พม่าร่วมกัน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด จึงทำให้ทัวร์ต้องเลื่อนมาเรื่อยๆ ก่อนจะตัดสินใจยกเลิก และต้องคืนเงินให้กับลูกทัวร์  

แต่ เฟี้ยว์ฟ้าว กลับพบว่า อดีตผู้จัดการ ได้ร่วมมือกับเอเจนซี่ ยักยอกเงินที่ได้คืนมาจากสายการบิน แต่ไม่ยอมคืนให้ลูกทัวร์  และยังพบว่าอดีตผู้จัดการได้ไปพูดใส่ร้ายป้ายสีเธอกับลูกทัวร์ด้วย  รวมถึงเรื่องที่มีลูกค้ารายหนึ่งมาพูดกับ เฟี้ยว์ฟ้าว ว่า ได้โอนเงินค่าตัวในการทำงานให้ไปหมดแล้ว แต่ทำไมไม่ไปทำงานให้เขา  เฟี้ยว์ฟ้าว ก็บอกว่าเธอยังได้เงินไม่ครบ จนกระทั่งลูกค้าเอาหลักฐานให้ดู ก็เลยทำให้รู้สึกว่าอดีตผู้จัดการไม่ได้มีความซื่อสัตย์กับเธอแล้ว ก็เลยตัดสินใจเข้าแจ้งความ

แต่ปรากฏว่าเมื่อวานนี้ แม่ชีจู๊ด ฐานิตา ปิ่นน้อย ก็ได้เดินทางไปที่ สน.ประเวศ พร้อมทนายความ เพื่อแจ้งความกลับ เฟี้ยว์ฟ้าว ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่ เฟี้ยว์ฟ้าว กล่าวหาทั้งหมด ยืนยันสิ่งที่เขาพูดไม่ใช่ความจริง ตนเองไม่ได้ยักยอกหรือโกงเงิน ซึ่งมีหลักฐานยืนยันทุกอย่าง  สิ่งที่ เฟี้ยว์ฟ้าว กล่าวหา ทำให้ แม่ชี และครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียง  ก่อนที่ แม่ชี จะพูดทั้งน้ำตาว่าเหตุผลที่ตัดสินใจมาแจ้งความ เพราะ เฟี้ยว์ฟ้าว แจ้งความคุณแม่ของ แม่ชี ในคดีฉ้อโกง ซึ่งตอนนี้คุณแม่อายุ 80 แล้ว ก็เลยอยากออกมาเรียกร้องสิทธิ์และปกป้องคุณแม่  

โดย แม่ชี ยอมรับว่าได้แตกหักกับ เฟี้ยว์ฟ้าว กันมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว จากปัญหาส่วนตัวที่ไม่ขอบอก ยอมรับว่าจบกันไม่ดี และยังบอกอีกว่ารู้จักกับ เฟี้ยว์ฟ้าว มา 20 ปี และสนิทสนมเป็นผู้จัดการกันมา 7 ปี ซึ่งตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยได้เงินในฐานะผู้จัดการแม้แต่บาทเดียว ไม่เคยได้เงินเดือน ไม่เคยได้โบนัส ไม่เคยได้ค่าคอมมิสชั่น แค่อยากดูแลเขาจากใจ และไม่คิดจะเรียกร้อง ซึ่งที่ผ่านมา แม่ชี มีรายได้จากบริษัทออแกไนซ์ของตัวเอง และจากบริษัททัวร์ที่ทำร่วมกับ เฟี้ยว์ฟ้าว เท่านั้น แต่ไม่เคยได้เงินในฐานะผู้จัดการ

แม่ชี บอกว่าหลังจากเกิดเรื่องก็เคยโทรศัพท์ไปคุยกับ เฟี้ยว์ฟ้าว มาครั้งนึง บอกเขาว่า จะขอออกมาพูดความจริงบ้าง แต่ทางเขาตอบกลับมาว่าไม่ต้องมาขู่ หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีก  แม่ชี ยังบอกอีกว่าครอบครัวของแม่ชี รักเขามาก ไม่อยากให้มาแจ้งความด้วยซ้ำ แต่รับไม่ได้ที่เขาแจ้งความคุณแม่ของแม่ชี ตอนนี้ครอบครัวก็อยากดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมฝากบอกไปถึง เฟี้ยว์ฟ้าว ว่า ยังรู้สึกดีกับเขาอยู่ แต่อยากให้เขาพอแล้วกับอะไรที่ไม่จริง ให้สมกับที่เขาบอกทุกคนว่าเขาไหว้พระปฏิบัติธรรม

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/EtdMS6TY-WQ