พลังเม่าไม่ได้ผล ตลท.เผยยอดซื้อขายไม่ได้ผิดปกติ - สรรพากรสวน ดอกเบี้ยเงินฝากยังเสียภาษี ขายหุ้นก็ต้องเสียด้วย

วานนี้ (วันที่ 8 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีกลุ่มโบรกเกอร์​ นักลงทุน​ เชิญชวนให้หยุดการซื้อขายเพื่อคัดค้านการเก็บภาษีขายหุ้น​ ในวันที่ 8 ธ.ค. 65

• วันที่ 6 ธันวาคม 2565 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 62,672.68 ล้านบาท
• วันที่ 7 ธันวาคม 2565 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 55,956.58 ล้านบาท
• วันที่ 8 ธันวาคม 2565 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 42,658.10 ล้านบาท

ตลาดหลักทรัพย์ ได้กล่าวว่า สัดส่วนการซื้อขายไม่ได้ผิดปกติมากนัก โดยมูลค่าซื้อขายหุ้นแบ่งเป็นนักลงทุนในประเทศ 9000 ล้านบาท นักลงทุนสถาบัน 3000 ล้านบาท สะท้อนถึงสัดส่วนไม่ได้แตกต่างจากวันอื่นๆ มากนัก แต่ปริมาณการซื้อขายต่ำกว่าวันอื่น ซึ่งอาจไม่ได้เป็นผลจากสาเหตุนี้ เพราะหากพิจารณาการซื้อขายในภาพรวม หากนักลงทุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งซื้อขายน้อยลง กลุ่มอื่นก็จะซื้อขายน้อยลงตามด้วย เพราะสภาพคล่องที่ลดลงแต่ละวันไม่เท่ากัน

--------------

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีการจัดเก็บภาษีจากการขายหุ้นอาจทำให้นักลงทุนในตลาดหุ้นย้ายไปซื้อขายหุ้นในตลาดต่างประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจัดเก็บภาษี ว่า

เป็นเรื่องของนักลงทุน เพราะไปซื้อขายในตลาดต่างประเทศก็ต้องเสียภาษีเหมือนกัน เพราะมีการจัดเก็บภาษีขายหุ้นเช่นกัน บางประเทศจัดเก็บอัตราสูงกว่าไทยด้วย

สำหรับขั้นตอนของออกประกาศจัดเก็บภาษี ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

------------

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากรตระหนักถึงความสำคัญของความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี และต้องการลดความเหลื่อมล้ำในการกระจายรายได้

แบ่งการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะเป็น 2 ช่วง ในอัตรา ดังนี้

ช่วงที่ 1 จัดเก็บในอัตราร้อยละ 0.05 (ร้อยละ 0.055 เมื่อรวมกับภาษีท้องถิ่น) ตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566

ช่วงที่ 2 จัดเก็บในอัตราร้อยละ 0.1 (ร้อยละ 0.11 เมื่อรวมกับภาษีท้องถิ่น) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป

และที่ต้องเก็บภาษีเพื่อความเป็นธรรม เพราะขนาดคนฝากเงินยังเสียภาษีเลย คนขายหุ้นจะไม่เสียภาษีหรือ

------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/YtKiQjyjBfE