เศรษฐกิจ

เปิดเผย 3 แนวทางเก็บค่าเอฟที ม.ค.-เม.ย.66 อาจได้จ่ายค่าไฟ 5.37-6.03 บาท/หน่วย

โดย nattachat_c

15 พ.ย. 2565

149 views

วานนี้ (14 พ.ย. 65) นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษกกกพ. เปิดเผยว่า กกพ. ในการประชุมเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 65 มีมติรับทราบภาระต้นทุนค่าเอฟทีประจำรอบ พ.ค. - ส.ค. 65


และเห็นชอบผลการคำนวณประมาณค่าเอฟทีสำหรับงวดเดือน ม.ค. - เม.ย. 2566 พร้อมให้สำนักงาน กกพ. นำค่าเอฟทีประมาณการและแนวทางการจ่ายภาระต้นทุนคงค้างที่ กฟผ. แบกรับในกรณีต่างๆ ดังนี้

กรณีที่ 1 ค่าเอฟที 224.98 สตางค์ต่อหน่วย

  • เอฟทีขายปลีกที่สะท้อนต้นทุน 158.31 สตางค์ต่อหน่วย
  • เงินทยอยเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุน 66.67 สตางค์ต่อหน่วย 
  • กฟผ. ได้รับเงินคืนครบภายใน 1 ปี
  • กฟผ.จะต้องรับภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงแทนประชาชน จำนวน 81,505 ล้านบาท
  • ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 6.03 บาทต่อหน่วย


กรณีที่ 2 ค่าเอฟที 191.64 สตางค์ต่อหน่วย

  • เอฟทีขายปลีกที่สะท้อนต้นทุน 158.31 สตางค์ต่อหน่วย
  • เงินทยอยเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุน 33.33 สตางค์ต่อหน่วย
  • กฟผ. ได้รับเงินคืนครบภายใน 2 ปี
  • กฟผ.จะต้องรับภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงแทนประชาชน จำนวน 101,881 ล้านบาท
  • ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 5.70 บาทต่อหน่วย


กรณีที่ 3 ค่าเอฟที 158.31 สตางค์ต่อหน่วย

  • กฟผ.จะต้องรับภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงแทนประชาชน จำนวน 122,257 ล้านบาท
  • ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 5.37 บาทต่อหน่วย


ทั้งนี้ ค่าไฟ ก.ย. - ธ.ค. 65 เรียกเก็บค่า FT 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเท่ากับ 4.72 บาทต่อหน่วย

---------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/WPYgo-cT20k

คุณอาจสนใจ