เศรษฐกิจ

ททท. ชงครม. "เราเที่ยวด้วยเฟส5" 2 ล้านสิทธิ์ สัปดาห์หน้า เป็นของขวัญปีใหม่ไทย ดึงดูดคนไทยเที่ยวไทย

โดย kanyapak_w

28 ต.ค. 2565

560 views

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า รัฐบาลจะออกแพ็คเกจมาตรการของขวัญปีใหม่ 2566 ให้คนไทย ในส่วนนี้ททท. เตรียมเสนอโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่และกระตุ้นการท่องเที่ยวของคนไทยเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น ตั้งเป้าครอบคลุมไปจนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีหน้า



เบื้องต้น จะให้คงให้ได้รับสิทธิส่วนลดค่าที่พัก 40% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้อง และคูปองค่าอาหาร 600 บาท ส่วนค่าตั๋วเครื่องบินคาดว่าจะตัดสิทธิ์ออก เนื่องจาก ททท. ร่วมกับสายการบินจัดแคมเปญลดทั่วฟ้า บินทั่วไทยที่ให้ส่วนลดค่าบิน 300 บาทต่อคนอยู่แล้ว ดังนั้นในโครงการเราเที่ยวกัน เฟส 5 จะได้รับสิทธิต่อคน 3,600 บาท คาดว่าขอครม. จำนวน 2 ล้านสิทธิ์ ใช้งบประมาณราว 7,200 ล้านบาท ทั้งนี้จะต้องหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เพื่อจัดสรรงบประมาณ ซึ่งคงต้องใช้งบฯกลางปี 2566 เนื่องจาก เม็ดเงินจากวงเงินกู้ตามพรก. หมดแล้ว คาดว่าจะเสนอได้ทันภายในสัปดาห์หน้า



พร้อมอัพเดตตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยล่าสุดตั้งแต่ 1 ม.ค.ถึง 26 ต.ค. 65 อยู่ที่กว่า 7.39 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละ 51,000 คน ช่วงพีคคือวันละ 69,000 คน คาดว่าถึงสิ้นเดือนนี้จะปิดที่ 7.5 ล้านคน และเมื่อเข้าสู่ไฮซีซั่นจะทำให้ยอดปีนี้ถึง 10 ล้านคนแน่นอน



ด้านนางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ระบุ ผลจากมาตรการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ส่วนขยายที่ผ่านมา ทำให้สัดส่วนคนไทยที่เข้าพักโรงแรมในเครือเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากเดิมที่มีแค่กว่า 10% และยิ่งเป็นเรื่องดีถ้ามีมาตรการเฟส 5 มากระตุ้นในช่วงไฮซีซันปีนี้ สำหรับอัตราการเข้าพักดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเฉลี่ยทั้งปีจนถึงตอนนี้อยู่ที่กว่า 60% แต่จะพีคในช่วงที่มีการประชุม APEC ที่ดันให้โรงแรมในเครือเฉพาะในกรุงเทพฯ 5 แห่งถึงกับเต็ม และรวมไปถึงหลังเปิดประเทศมีการจัดประชุมสัมมนา ก็ส่งผลให้อัตราค่าห้องเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 4,900-5,000 บาท สูงกว่าปี 2562 ก่อนโควิดซึ่งอยู่ที่ 4,200 บาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการปรับตัวของธุรกิจรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ สอดคล้องกับนโยบายการท่องเที่ยวของประเทศ และในช่วงไฮซีซั่นปีนี้พบว่ามียอดจองล่วงหน้าเกือบเต็มยาวไปจนถึงกลางปีหน้า ซึ่งยอดการจองล่วงหน้าปีนี้สูงกว่าช่วงก่อนโควิดซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 79%



พร้อมกันนี้ AWC ได้ร่วมกับ ททท. และฝพันธมิตรภาคเอกชน สถาบันการเงินชั้นนำ และเครือโรงแรมระดับโลก อาทิ เครือแมริออท บันยันทรี โอกุระ ฮิลตัน IHG และมีเลีย ประกาศจุดยืนเพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยั่งยืน โดยลงทุนปรับเปลี่ยนธุรกิจและโครงสร้าง ตั้งเป้านำกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการในเครือทั้งหมดผ่านการรับรองมาตรฐาน “SHA” ด้านส่งเสริมท่องเที่ยวยั่งยืนของ ซึ่งอยู่ระหว่างการวางกรอบการดำเนินงานยกระดับมาตรฐาน “SHA“ รวมไปถึงเป้าหมายผลักดันความเป็นกลางทางคาร์บอน และไม่มีขยะฝังกลบจากการดำเนินงาน ภายในปี 2573



คุณอาจสนใจ

Related News