'จุรินทร์' จี้กรมการค้าภายใน เร่งถกขึ้นราคาบะหมี่ซอง 'วัฒนศักย์' ลั่น ไม่ปรับขึ้นราคาเท่ากันทุกยี่ห้อ

วานนี้ (22 ส.ค.65) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพิจารณาปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของผู้ผลิต จำนวน 5 ราย (มาม่า, ไวไว, ยำยำ, นิชชิน และซื่อสัตย์) ที่เสนอขอปรับขึ้นราคาซองละ 2 บาท จาก 6 บาท/ซอง เป็น 8บาท/ซอง ว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเร่งพิจารณา เพื่อให้ได้คำตอบโดยเร็วที่สุด อยู่ในขั้นตอนทำตัวเลขลงลึกในรายละเอียด หากมีความชัดเจนจะประกาศให้รับทราบต่อไป


นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่เสนอขอปรับราคาขึ้นซองละ 2 บาท นั้น มองว่ามากเกินไป เพราะจะเกิดผลกระทบกับผู้บริโภคมากเกินไป โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย ดังนั้น การพิจารณาจะต้องอยู่บนพื้นฐานผู้บริโภค และต้องไม่ละเลยผู้ประกอบการต้องอยู่ได้ด้วย ไม่ถึงกับขาดทุนและหยุดผลิต จนกระทบต่อผู้มีรายได้น้อยจะไม่มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปราคาถูกบริโภคอีกต่อไป

“การพิจารณาต้องดูต้นทุน ที่เพิ่มสูงขึ้นว่ามีอะไรบ้าง หากจะให้การผลิตเดินหน้าต่อได้ จำเป็นต้องขึ้นราคา จะขึ้นอย่างไรให้กระทบผู้มีรายได้น้อยน้อยที่สุด และหากอนาคตต้นทุนการผลิตปรับลดลง จะต้องมีมาตรการปรับลดราคาลงโดยเร็วที่สุดให้สอดคล้องต้นทุน” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ได้รับรายงานว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มีต้นทุน สำคัญ 3 ส่วน คือ

1.ราคาพลังงาน ค่าแก๊ส ค่าขนส่ง พบว่ามีการปรับราคาเพิ่มขึ้น

2.ต้นทุนวัตถุดิบข้าวสาลี และน้ำมันพืช มีการปรับเพิ่มขึ้นตามราคาวัตถุดิบในตลาดโลก    

3.ต้นทุนบรรจุภัณฑ์พลาสติกซึ่งมีราคาปรับตัวสูงขึ้นตามราคาของปิโตรเคมี

ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เผยว่า จะไม่พิจารณาให้ขึ้นราคาเท่ากันทุกยี่ห้อ จะพิจารณาตามต้นทุนผู้ผลิตแต่ละรายที่ได้ยื่นเข้ามา และกำลังเร่งรัดในการพิจารณาให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Xkf6T67YCRk