มติรถร่วมบขส. 27 บริษัทลดเที่ยววิ่ง 80% เริ่ม 1 ก.ค.65 แบกน้ำมันแพงไม่ไหว

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 65 นายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมผู้ประกอบการขนส่ง และบริษัทรถร่วม ทั่วประเทศถึงมาตรการการดำเนินการเพื่อพยุงธุรกิจเดินรถ ให้สามารถดำเนินการต่อระหว่างรอภาครัฐพิจารณาข้อเสนอในการใช้โครงสร้างอัตราค่าโดยสารที่ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เมื่อปี 2548 ซึ่งเป็นอัตราที่สะท้อนต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

โดยมติที่ประชุมต่างเห็นพ้องกันว่า ไม่สามารถประกอบการเดินรถได้ตามปกติ เพราะต้องแบกภาระต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งต้องแบกต้นทุนเพิ่มขึ้นถึงเที่ยวละกว่า 1,400 บาท ในสัปดาห์ที่แล้ว เป็น 1,600 บาทในสัปดาห์นี้ แนวโน้มน้ำมันเชื้อเพลิงยังจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เพื่อประคับประคองธุรกิจไม่ให้แบกภาระจนต้องปิดกิจการ ผู้ประกอบการขนส่งและบริษัทฯ รถร่วม จึงมีมติกำหนดให้ลดเที่ยววิ่งลง 80% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 65 เป็นต้นไป และประเมินสถานการณ์ว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อได้หรือไม่ โดยประชาชนผู้เดินทางสามารถตรวจสอบเที่ยววิ่งในแต่ละวันได้ผ่านเว็บไซต์ของทุกบริษัทฯ นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการรถร่วม บขส.อื่น ๆ แจ้งความประสงค์ลดเที่ยววิ่ง ตามมติที่ประชุมในครั้งนี้ด้วย

นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย ยังระบุด้วยว่า การลดเที่ยววิ่งลง 80% ในครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อผู้เดินทาง แต่เนื่องจากเป็นความจำเป็นเพราะผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับต้นทุนน้ำมันต่อไปได้ เพราะอัตราค่าโดยสารในปัจจุบัน เป็นอัตราที่ใช้เมื่อปี 62 อัตราค่าน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ลิตรละ 27 บาท ขณะที่ปัจจุบันราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับขึ้นมาอยู่ที่ลิตรละ 35 บาท และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น หากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ยังคงเพิกเฉยไม่นำอัตราโครงสร้างค่าโดยสาร ตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางเมื่อปี 48 มาใช้ ผู้ประกอบการคงต้องประกาศหยุดเดินรถในที่สุด

ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องขอปรับอัตราค่าโดยสาร ไปยังกรมการขนส่งทางบก ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. 65 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับคำตอบและไม่ได้รับการเหลียวแลจากภาครัฐแต่อย่างใด กระทั่งผู้ประกอบการขนส่งหลายราย จำเป็นต้องหยุดเดินรถและเลิกกิจการไปบ้างแล้วราว 40% หรือคิดเป็นจำนวน 8,000 คัน จากจำนวนรถสมาชิกทั้งสิ้นกว่า 20,000 คัน โดยบางรายเลือกหยุดให้บริการและนำรถไปตัดขายทิ้งเป็นเศษเหล็กถึงหลักพันคัน แม้ล่าสุดรัฐบาลเสนอทางเลือกให้ความช่วยเหลือเป็นคูปองช่วยค่าน้ำมันลิตรละ 2 บาท แต่ก็ช่วยเพียงรายละ 60 ลิตร ทั้งที่รถต้องใช้น้ำมันถึง 200 ลิตร จึงไม่ครอบคลุมกับผลกระทบ ทางกลุ่มจึงขอไม่รับข้อเสนอ แต่ขอให้ปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารตามตารางที่ทางกรมการขนส่งทางบกคำนวณว่าจะต้องขึ้นอีก 0.59 บาทต่อกิโลเมตร อย่างไรก็ตาม จากนี้จนถึงก่อนวันที่ 1 ก.ค.65 หากกรมการขนส่งทางบก รับข้อเสนอให้ความช่วยเหลือ ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงมติ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม สำหรับรายละเอียดเส้นทางของแต่ละบริษัทฯ มีดังต่อไปนี้

1. บริษัท ไทยสงวนทัวร์ จำกัด 3 เส้นทาง

2. บริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด 32 เส้นทาง

3. บริษัท กิตติสุนทร จำกัด 5 เส้นทาง

4. บริษัท จักพงษ์ทรานสปอร์ต จำกัด 2 เส้นทาง

5. บริษัท ลาดหลุมแก้วขนส่ง 2 เส้นทาง

6. บริษัท ชินวรเดินรถขนส่ง 1 เส้นทาง

7. บริษัท 407 พัฒนา จำกัด 9 เส้นทาง

8. บริษัท ปิยะรุ่งเรืองทัวร์ จำกัด 5 เส้นทาง

9. บริษัท ส.วิริยะทรานสปอร์ต จำกัด 2 เส้นทาง

10. บริษัท ไทยสงวนทัวร์ จำกัด 3 เส้นทาง

11. บริษัท ชัยนาททัวร์ จำกัด 2 เส้นทาง

12. บริษัท ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด 16 เส้นทาง

13. บริษัท ปักธงชัยร่วมใจเดินรถ จำกัด 2 เส้นทาง

14. บริษัท นครชัยทัวร์ จำกัด 4 เส้นทาง

15. บริษัท แอร์โคราชพัฒนา จำกัด 1เส้นทาง

16. บริษัท นครชัย21 จำกัด 1 เส้นทาง

17. บริษัท วิศวกรเสนา จำกัด 3 เส้นทาง

18. บริษัท วัชรินทร์ทัวร์ จำกัด 1 เส้นทาง

19. บริษัท นครชัยขนส่ง จำกัด 5 เส้นทาง

20. บริษัท ราชสีห์ทัวร์ จำกัด 1 เส้นทาง

21. บริษัท โชคชัยเดินรถ จำกัด 1 เส้นทาง

22. บริษัท นครอรัญ จำกัด 1 เส้นทาง

23. บริษัท ครบุรี เดินรถ จำกัด 1 เส้นทาง

24. ราชสีมา เดินรถ จำกัด 1เส้นทาง

25. โพนทวีชัย จำกัด 5 เส้นทาง

26. บริษัท เทพอู่ทองขนส่ง จำกัด 5 เส้นทาง

27. บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด 29 เส้นทาง

ขอบคุณภาพ : เพจรถเมล์ไทยแฟนคลับ Rotmaethai