เศรษฐกิจ

'บิ๊กตู่' สั่งตรง ขสมก.จ้าง พนง.ชั่วคราว - ขนส่งฯ ขานรับออก 5 มาตรการเร่งด่วน แก้ปัญหารถเมล์ไม่พอ

โดย thichaphat_d

15 มิ.ย. 2565

70 views

จากกรณี เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2565 นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ขสมก.มีรถโดยสารประจำการ จำนวน 2,885 คัน ลดลงจากเดิมประมาณ 200 คัน เนื่องจากสิ้นสุดสัญญาเช่ารถโดยสาร แต่ ขสมก.ไม่สามารถนำรถออกวิ่งให้บริการได้ทั้งหมด เพราะต้องสำรองรถโดยสาร 5% เผื่อสำหรับกรณีฉุกเฉิน ทำให้ ขสมก.มีรถโดยสารออกวิ่งในแต่ละวันเพียง 95% หรือวันละประมาณ 2,740 คัน


นอกจากนี้ ขสมก.ยังขาดอัตรากำลังพนักงานขับรถโดยสารอีกกว่า 700 คน ส่งผลให้ ขสมก.มีอัตรากำลังพนักงานและจำนวนรถโดยสารไม่เพียงพอต่อการให้บริการ บางเส้นทางอยู่ระหว่างปรับปรุงการจัดเดินรถให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการ อาทิ ความถี่ในการปล่อยรถ จำนวนเที่ยววิ่ง จำนวนรถโดยสาร และจำนวนพนักงานประจำรถ ทำให้เกิดปัญหาประชาชนต้องรอรถโดยสารประจำทางนานหลายชั่วโมง


ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่มีข่าวว่ารถเมล์ ขสมก.ไม่เพียงพอต่อการความต้องการใช้ของประชาชนในพื้นที่ กทม. ว่า ตนได้ติดตามข่าวเรื่องรถเมล์ ขสมก. คนขับรถไม่เพียงพอ พนักงานเก็บค่าโดยสารมีไม่เพียงพอ


จึงได้มอบแนวปฏิบัติให้กระทรวงคมนาคมให้หาทางแก้ปัญหา ไม่เช่นนั้นรถเมล์จะให้บริการประชาชนไม่เพียงพอ ในขณะที่รอรถเมล์ใหม่ที่ยังเข้ามาไม่เต็มที่ ขอให้แก้ปัญหาในระยะสั้นนี้ก่อนได้หรือไม่ ให้จ้างพนักงานชั่วคราวก่อน เพื่อที่จะรอให้รถเมล์รุ่นใหม่เข้ามา ซึ่งเป็นรถเมล์ที่มีพัฒนาการด้านเทคโนโลยี ใช้คนไม่มาก

-------------

ด้าน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และผู้ประกอบการรถร่วมเอกชนเข้าร่วมประชุม หารือเรื่องรถเมล์ขาดระยะ 


นายจิรุตม์ กล่าวว่า รถเมล์ไม่พอ เพราะปรับแผนไม่ทัน เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจำนวนผู้โดยสารใช้บริการน้อย มีการปรับการเดินรถ เช่น ลดเที่ยววิ่ง เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่มีการใช้บริการประมาณ 10-20% เป็นต้น


ขณะที่ ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลายผู้โดยสารกลับมาใช้บริการประมาณ 70% แล้ว ถ้าเทียบกับปี 2562 ทำให้ต้องปรับแผนการเดินรถใหม่ เพื่อสอดคล้องกับความต้องการ ดังนั้น จึงมีแนวทางแก้ปัญหา ดังนี้

1. ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ขสมก. และรถร่วมเอกชน จัดการเดินรถเหมาะสมเพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสาร โดยเฉพาะช่วงเร่งด่วนเช้าและเย็นที่มีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก โดยต้องเพิ่มจำนวนรถ และเพิ่มความถี่ให้มากขึ้น

2. ปรับแผนการเดินรถช่วงเวลาต่างๆ ให้มีความเหมาะสมกับการหมุนเวียนรถ เพราะในแต่ละช่วงเวลามีการใช้บริการไม่เท่ากัน เช่น ช่วงเวลาเช้า-เย็นจะมีผู้ใช้บริการจำนวนมากต้องเพิ่มความถี่ให้มากขึ้น ส่วนช่วงเวลากลางวันที่มีผู้ใช้บริการน้อยอาจจะปรับความถี่ให้ห่างได้

3. ให้ผู้ประกอบการพิจารณาตัดรถเสริมในบางเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางที่มีระยะทางไกล 30-40 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งใช้เวลาเดินรถไป-กลับนาน ทำให้เกิดการหมุนรถช้า ดังนั้น สามารถจัดรถเสริม วิ่งในระยะที่สั้นลงได้ โดยไม่ต้องวิ่งถึงปลายทาง แต่ให้วิ่งถึงกลางทางหรือในช่วงที่มีการให้บริการหนาแน่นได้ เพื่อนำรถกลับมาให้บริการในเส้นทางได้เพียงพอ

4. ให้ผู้ประกอบการสามารถหมุนเวียนรถได้ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการผู้ใช้บริการ เช่น เส้นทางที่จำเป็นต้องใช้จำนวนรถมากกว่าปกติ และผู้โดยสารใช้บริการรถมาก สามารถนำรถในบางเส้นทางที่มีผู้โดยสารใช้บริการน้อย หมุนเวียนมาให้บริการในเส้นทางที่ใช้บริการมากได้

5. กรณีรถเมล์หายหลัง 20.00-21.00 น. นั้น ได้สั่งการให้ ขสมก. และรถร่วมเอกชนที่ให้บริการทุกเส้นทาง ต้องให้บริการช่วงเวลา 05.00-22.00 น. ส่วนในอดีตมีรถเมล์ให้บริการช่วงกลางคืน หลังให้บริการช่วงหลัง 22.00 น. จนถึงเวลา 02.00 น.



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/wcoXRjJZ4po

คุณอาจสนใจ

Related News