กบน.ยันราคาดีเซลขึ้นกับสถานการณ์โลก เล็งขยายเพดานต่อถึง 38 บาท

วานนี้ (13 มิ.ย.) นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อพิจารณาราคาน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยที่ประชุมมีมติปรับขึ้นราคาน้ำดีเซลลิตรละ 1 บาท นับเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 4 (ระลอกสุดท้ายของเดือนนี้) ส่งผลให้ราคาขายปลีกดีเซลปรับจากลิตรละ 33.94 บาท เป็นลิตรละ 34.94 บาท (35 บาทต่อลิตร) มีผลตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป จนถึงสิ้นเดือน

โดยเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ผันผวนในระดับสูง จากความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องจากสหรัฐฯ และจีนที่เริ่มทยอยคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เมืองเซี่ยงไฮ้และกรุงปักกิ่ง ซึ่งจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ของจีนคาดว่าจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

และถึงแม้ว่ากลุ่มโอเปกพลัส มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นราว 648,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน ก.ค. และ ส.ค. ซึ่งมากกว่าข้อตกลงเดิมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 432,000 บาร์เรลต่อวัน จนถึงเดือน ก.ย. แต่อย่างไรก็ตามการกลั่นน้ำมันที่จะมาทดแทนน้ำมันรัสเซียเพื่อลดความร้อนแรงของราคาน้ำมันก็ไม่ได้ผลมากนักเนื่องจากการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลกเพิ่มขึ้นช้ามาก

---------

ด้านนายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กล่าวยอมรับว่า เบื้องต้นมีความเป็นไปได้ที่ กบน. อาจจะต้องปรับเพดานการตรึงราคาดีเซลเป็น 38 บาท/ลิตร จากปัจจุบันกำหนดไว้ไม่เกิน 35 บาท/ลิตร ซึ่งอาจยืนได้ถึงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ ตามมติคณะรัฐมนตรี

แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการทบทวนราคาแต่ละสัปดาห์ รวมถึงสภาพคล่องของกองทุนและความคืบหน้าเรื่องเงินกู้จากสถาบันการเงินว่าจะมีเงินเข้าเติมในระบบได้เร็วแค่ไหน

---------
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า โดยปัจจุบันประมาณฐานะกองทุน ณ วันที่ 12 มิ.ย.65 ติดลบ 91,089 ล้านบาท

• บัญชีน้ำมัน 54,574 ล้านบาท
• บัญชีก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ติดลบ 36,515 ล้านบาท

มีการอุดหนุนดีเซลอยู่ที่ 9.96 บาทต่อลิตร ซึ่งการปรับขึ้นราคาดีเซลอีก 1 บาทต่อลิตร ครั้งนี้ จะส่งผลให้กองทุนฯ สามารถลดภาระการชดเชยราคาได้วันละประมาณ 60 ล้านบาท หรือประมาณ 1,800 ล้านบาทต่อเดือน

ขณะนี้ กองทุนยังมีกระแสเงินสดเป็นเงินฝากอยู่ในธนาคารประมาณ 8,200 ล้านบาท ฝากไว้ที่กระทรวงการคลังประมาณ 2,800 ล้านบาท มีเงินที่ยืดการชำระผู้ค้ามาตรา 7 อีกประมาณ 5,000-7,000 ล้าน และอื่นๆ อีก 2,000 ล้านบาทเศษ

ประกอบกับการปรับราคาดีเซลขึ้น ช่วยลดภาระการอุดหนุนได้ 60 กว่าล้านลิตร/วัน คิดเป็นเงิน 663 กว่าล้านบาท/วัน หรือประมาณ 19,900 ล้านบาท/เดือน รวมกับการลดอุดหนุนดีเซลพรีเมียมส่วนหนึ่ง ทำให้มีเงินเติมเข้ามาในระบบ

ทั้งนี้ตามมติ ครม. ที่จะชดเชยราคาน้ำมันคนละครึ่งยังมีเพดานที่ยังสามารถปรับราคาได้อีก 2 บาทกว่า แตะระดับสูงสุดที่ 37-38 บาทต่อลิตร แต่อย่างไรก็ตามหากราคาน้ำมันตลาดโลกไม่ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่านี้ก็จะพยายามตรึงราคาให้อยู่ในระดับ 35 บาทต่อลิตรให้ได้นานที่สุด

โดยขณะนี้หากไม่มีการชดเชยจากกองทุน ราคาน้ำมันดีเซลจะอยู่ในระดับราคาลิตรละ 44.96 บาท (ปัจจุบันชดเชยอยู่ที่ 9.96 บาทต่อลิตร ส่วนราคาขายอยู่ที่ 35 บาทต่อลิตร)

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ZwJv6i2a3Kc