'รถเมล์' ขาดจริง! ขสมก.ยอมรับ รถน้อยลงกว่า 200 คัน พนักงานขาดกว่า 700 คน

‘รถเมล์’ ขาดจริงครับ! ขสมก.รับจำนวนรถน้อยลงกว่า 200 คัน พนักงานขาดกว่า 700 คน ขอเวลาไม่เกิน 1 เดือน ปรับปรุงเส้นทางและปริมาณรถให้เหมาะสม

กรณีเฟซบุ๊ก ‘รถเมล์ไทยแฟนคลับ Rotmaethai’ โพสต์ข้อความ

“เสียงสะท้อนของ ประชนชนผู้ใช้บริการรถเมล์ ร้องรถเมล์หลัง 20:00 น. รถเมล์หายไปไหนหมด อยากให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ช่วยลงมาดู หรือลองมาใช้บริการรถเมล์กลับบ้าน อย่างประชาชนดู จะได้รู้ถึงความทุกข์ ความลำบากของประชาชนผู้ใช้บริการ รถมาเต็ม! ขึ้นไม่ได้ วันไหนฝนตก ลำบากสุดๆ และรถเมล์บางเส้นทาง ขสมก.เคยมีวิ่งกะสว่าง พอขนส่งให้เอกชนมาเดินรถแทน กะสว่างกลับหายไปก็มี เพจรถเมล์ไทยแฟนคลับ ขอเป็นสื่อส่งเสียงสะท้อนถึง หน่วยงานที่ดูแล และผู้มีอำนาจ ช่วยสั่งการช่วยเหลือประชาชนหน่อยนะครับ เพราะประชาชนผู้ใช้บริการรถเมล์ ไม่ได้มีรายได้สูง พอที่จะจ่ายค่าแท๊กซีได้ทุกวัน ถ้าโพสต์นี้ถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ช่วยประชาชนด้วยครับ!”

ผู้สื่อข่าวช่อง 3 สอบถาม นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)​เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาหลัง 20.00 น. ยังมีรถเมล์ ขสมก. วิ่งให้บริการอยู่ แต่ในบางเส้นทาง บางสาย อยู่ระหว่างการปรับปรุงเส้นทาง และปริมาณรถให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้โดยสาร และจำนวนรถ รวมถึงจำนวนพนักงานขสมก.ที่มีอยู่

ผอ.ขสมก.กล่าวว่า ปัจจุบัน ขสมก.มีรถอยู่ 2,885 คัน ลดลงจาก 3,000 กว่าคัน ในช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากหมดสัญญาไป 200 กว่าคัน โดยเป็นรถที่วิ่งให้บริการ 95% อีก 5% เป็นรถสำรองฉุกเฉิน ทำให้เหลือจำนวนรถที่วิ่งให้บริการทั้งสิ้นราว 2,700 คัน ใน 108 เส้นทาง

ขณะที่จำนวนพนักงานขสมก.ยังขาดอยู่กว่า 700 คน ทำให้มีจำนวนรถ และ จำนวนพนักงาน ไม่เพียงพอที่จะวิ่งให้บริการด้วยความถี่เท่าเดิม และจำเป็นต้องมีการปรับเส้นทางใหม่ให้เกิดความเหมาะสม ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจเส้นทาง และความต้องการเดินทางของผู้โดยสาร คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 15 วัน จากนั้นจะทำแผนเสนอบอร์ด ขสมก. และดำเนินการปรับเส้นทาง ทดลองวิ่งได้ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 และ 4 ซึ่งจะมีการรับฟังความเห็นของผู้โดยสารที่ใช้บริการเพื่อนำมาปรับปรุงอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในเส้นทางที่ได้รับการร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมากว่า จำนวนรถไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้บริการ เช่น สาย2-36 ไทรน้อย-ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ , สาย 140 , สาย 142 และสาย 182 ก็ได้มอบหมายให้เขตการเดินรถต้นสังกัด ทำการตรวจสอบการบริหารจัดการเที่ยววิ่ง จนทำให้เกิดความไม่สมดุลในการให้บริการช่วงเย็น-ค่ำ ที่มีความต้องการใช้บริการจำนวนมากแล้ว และให้จัดการเที่ยววิ่งให้เพียงพอต่อความต้องการ พร้อมขอเวลาภายใน 1 เดือนจะเร่งแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จ

ส่วนประเด็นผลกระทบจากราคาน้ำมันนั้น ผอ.ขสมก.ยอมรับว่า ขสมก.ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาน้ำมันดีเซลเช่นกัน​โดยแต่ละวัน ขสมก.จะใช้น้ำมันดีเซลรวม วันละ 142,000 ลิตร ซึ่งการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลทุก 1 บาท จะเท่ากับ ขสมก. มีต้นทุนเพิ่มวันละ 142,000 บาท อย่างไรก็ตาม ขสมก. ยังต้องแบกรับภาระต้นทุนต่อไป และจะไม่มีการปรับลดเที่ยววิ่ง หรือ ลดการให้บริการ จากปัญหาราคาน้ำมันแพง