กบน. แจง การลดภาษีน้ำมัน ไม่มีผลต่อราคาขายปลีกหน้าปั๊ม

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ตรึงราคาน้ำมันดีเซลสัปดาห์นี้ไปจนถึงวันที่ 22 พ.ค. ในราคา 32 บาทต่อลิตร หลังจากนั้นจึงจะมีการพิจารณาเป็นรายสัปดาห์ ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังผันผวน แต่ยังวางกรอบราคาไว้ที่ 32-35 บาทต่อลิตร


ขณะเดียวกันชี้แจง กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้ขยายเวลาการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 5 บาทต่อลิตรไปอีก 2 เดือน นับตั้งแต่ 21 พ.ค. – 20 ก.ค. 2565 นั้น ไม่ได้หมายความว่า จะทำให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดราคาลง 5 บาทต่อลิตร แต่จะช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในการประคองราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในกรอบที่วางไว้คือ 32-35 บาทต่อลิตร


โดยเป็นการช่วยลดเงินอุดหนุนราคาน้ำมันของกองทุน จากที่ต้องใช้เงินอุดหนุนในอัตรา 9.41 บาทต่อลิตร เหลือราว 7.25 บาทต่อลิตร ทั้งนี้ภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่ลดลง 5 บาทต่อลิตร จะเป็นการปรับลดในส่วนของ B0 (น้ำมันดีเซลล้วนไม่มีส่วนผสมของน้ำมันปาล์ม) ที่เดิมจัดเก็บภาษีอยู่ที่ 6.44 บาทต่อลิตร เมื่อหักภาษีที่ลดลง ก็จะเหลือภาษีที่ยังเก็บได้ 1.44 บาทต่อลิตร แต่หากมาคำนวณกับไบโอดีเซล B5-B7 ที่มีการนำน้ำมันดีเซลไปผสมในสัดส่วน 93% ก็จะสามารถลดภาษีได้จริงเพียง 4.65 บาทต่อลิตรเท่านั้น เมื่อเทียบกับอัตราภาษีตามโครงสร้างที่เรียกเก็บ 5.99 บาทต่อลิตร


ดังนั้น อัตราภาษีใหม่ที่ลดลงหน้าสถานีบริการน้ำมันจะจัดเก็บอยู่ที่ 1.34 บาทต่อลิตร จากเดิม 5.99 บาทต่อลิตร โดยระบุว่า กองทุนน้ำมันติดลบ คงเอามาลดราคาน้ำมันขายปลีกไม่ได้ และหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ คงไม่ได้เห็นราคาน้ำมันดีเซลที่ลิตรละต่ำกว่า 32 บาทอีกแล้ว


สำหรับเรื่องการกู้เงินเสริมสภาพคล่องกองทุนฯ วงเงิน 20,000 ล้านบาท ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือกับสถาบันการเงิน เรื่องความสามารถ และแนวทางการชำระหนี้ ให้เป็นไปตามเงื่อนไขของสถาบันการเงิน เนื่องจากเมื่อกองทุนฯ มีสถานะเป็นนิติบุคคลแล้ว ก็ไม่ได้รับการคำประกันจากกระทรวงการคลัง และกระทรวงพลังงานเหมือนในอดีต ซึ่งหากไม่มีปัญหาก็คาดว่าจะมีเงินเข้ามาเติมสภาพคล่อง ได้ในเดือนหน้า


ส่วนฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 15 พฤษภาคม 2565 ติดลบ 72,062 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 37,854 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 34,208 ล้านบาท


อย่างไรก็ตามปลัดกระทรวงพลังงานประเมินว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงเช่นนี้จะยืดเยื้อไปจนถึงสิ้นปี ขึ้นอยู่กับความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเดือนนี้ จะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 110-115 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ ราคามันดีเซล ในตลาดโลก จะเคลื่อนไหวที่ 141-150 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล