เศรษฐกิจ

พิษของแพง! กกร.ปรับประมาณการณ์เงินเฟ้อปี 65 แนะรัฐเพิ่มเงินคนละครึ่ง ชี้ 1,200 น้อยไป

โดย thichaphat_d

3 ก.พ. 2565

103 views

เมื่อวานนี้ (2 ก.พ. 65) นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. เปิดเผยว่า

ที่ประชุม กกร. ปรับขึ้นประมาณการณ์อัตราเงินเฟ้อทั้งปี 65 อยู่ในกรอบ 1.5-2.5% จากเดิมประเมินอยู่ที่ 1.2-2% โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอาจเร่งตัวขึ้นแตะระดับ 3%  ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจ ไทยเติบโตลดลงกว่าที่ประมาณการได้ แต่ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 65 จะขยายตัวได้ในกรอบ 3% ถึง 4.5% เช่นเดียวกับประมาณการการส่งออกยังขยายตัวในกรอบ 3% ถึง 5.%

นอกจากนี้ ยังแสดงความไม่เห็นด้วยกรณีที่คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย เสนอขอปรับขึ้นค่าแรงเป็น 492 บาท ทั่วประเทศ และดูเหมือนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานจะรับลูกแล้วนั้น  เพราะมองว่าแต่ละจังหวัดมีคณะกรรมการกลางทั้งนายจ้างลูกจ้างและภาครัฐ เพื่อพิจารณาค่าแรง ซึ่งจะแตกต่างในแต่ละจังหวัด ขึ้นอยู่กับภาวะค่าครองชีพและรายได้ จึงควรพิจารณาขึ้นค่าแรงตามองค์ประกอบในแต่ละพื้นที่

อย่างไรก็ตามยอมรับว่าผู้ประกอบการจำเป็นต้องยอมรับ หากมีการปรับขึ้นค่าแรงเนื่องจากค่าของชีพที่สูงขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ภาครัฐมีหน้าที่เข้ามาดูแลควบคุมต้นทุนราคาสินค้า เช่น ราคาน้ำมันเพื่อบรรเทาต้นทุนของทุกฝ่าย ซึ่งประเมินว่าครึ่งปีแรกปีนี้ แนวโน้มราคาสินค้าจะทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในไตรมาสแรก ส่วนไตรมาสสองยังคงคาดหวังว่า จะเห็นแนวโน้มราคาน้ำมันปรับตัวลงอยู่บ้าง

ทั้งนี้ กกร.ขอความร่วมมือภาคเอกชนในการตรึงราคาสินค้า โดยขอให้ผู้ประกอบการบริหารจัดการสต๊อกสินค้าและวัตถุดิบที่มีอยู่เพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาออกไปก่อน เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบัน

ขอให้ภาครัฐตรึงราคาพลังงานเชื้อเพลิง และก๊าซหุงต้มภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เพื่อช่วยบรรเทาภาระต้นทุนการผลิตและการขนส่งให้กับผู้ประกอบการ

พร้อมเรียกร้องให้ ภาครัฐอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าประเทศ โดยปรับมาตรการ Test & Go ให้ลดจำนวนครั้งการตรวจ RT-PCR ให้เหลือเพียงวันที่เดินทางถึงไทย

และให้ใช้วิธีการส่งผลตรวจ ATK ผ่านระบบ หลังการเดินทางเข้าประเทศ 5 วัน แทนการตรวจด้วย RT-PCR เพื่อส่งเสริมบรรยากาศการท่องเที่ยวให้กลับมาอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญในการที่จะนำเม็ดเงินเข้ามาในประเทศ และเพิ่มรายได้ในภาวะที่ค่าครองชีพสูงขึ้น

พร้อมกันนี้ อยากให้ภาครัฐเพิ่มวงเงินมาตรการโครงการคนละครึ่ง ซึ่งถือเป็นโครงการที่ดี จากเดิมคนละ 1,200 บาท อยากให้เพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 1,500 บาทขึ้นไป และเพิ่มวงเงินมาตรการช้อปดีมีคืน จาก 30,000 บาท เป็น 100,000 บาท และขยายเวลาจากสิ้นมาตรการวันที่ 15 ก.พ.นี้ เป็นสิ้นปี 65



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/4PGmjkBYaP0

คุณอาจสนใจ

Related News