เศรษฐกิจ

น้ำมันโลกพุ่งไม่หยุด 'สุพัฒนพงษ์' ย้ำรบ.แก้น้ำมันแพงดีสุดแล้ว ชี้กระทบกันทั่วโลก

โดย thichaphat_d

3 ก.พ. 2565

41 views

ราคาน้ำมันโลกก็ได้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่กลุ่ม OPEC ได้ประชุมกันเรียบร้อย โดยมีมติ ยังคงเดิมที่จะผลิตน้ำมันแค่ สี่แสนบาร์เรล ต่อวัน ซึ่งทั้งโลกเห็นว่าไม่เพียง จึงดันให้ราคาน้ำมันโลกเพิ่มขึ้นตามความต้องการ


ตลาดไนเม็กซ์ นิวยอร์ก ลดลง 0.06 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 88.26 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

ตลาดเบรนท์ ลอนดอน ลดลง 0.31 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 89.47 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

ด้านราคาน้ำมันกลั่นสำเร็จรูป สิงคโปร์ ยังคงเดิม ปิดที่ 103.77 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล


ด้านราคาน้ำมันไทย วานนี้ (2 ก.พ.) นายสุพัฒพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในประเทศไทยว่า คณะกรรมการนโยบายน้ำมัน ที่ประชุมล่าสุด ได้มีการปรับสัดส่วนส่วนผสมของน้ำมันชีวภาพ จากบี 7 สู่ บี 5 โดยในวันที่ 4 ก.พ.นี้ จะแจ้งให้กับคณะกรรมการนโยบายปาล์มแห่งชาติ ได้รับทราบเรื่องนี้ และจะมีการประกาศใช้ในวันที่ 5 ก.พ.นี้ เพื่อเป็นการลดต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลลง


ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันปาล์ม ก็จะลดลงเล็กน้อย ย้ำว่าราคาน้ำมันนั้น มีปัจจัยมาจากตลาดโลก และเป็นเรื่องที่ต่อเนื่อง มีปัจจัยหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยเดิมคือ ค่าเงินบาทที่มีอัตราอ่อนตัว และปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศ ในประเทศแถบยุโรป ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย หรือยูเครน ที่ยังมีความตึงเครียดอยู่ โดยสหรัฐฯ ก็อยากจะมีการหารือในประเด็นนี้


จึงส่งผลให้มีผลต่อราคาน้ำมันในตลาดอย่างชัดเจน ทำให้ราคาน้ำมันหรือราคาพลังงานเดิมที่จะอ่อนตัวลง ก็ขยับตัวสูงขึ้น ประกอบกับสหรัฐฯ ประสบภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างหนัก ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง ทำให้ไทยต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่า ปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น หากคลี่คลายก็จะส่งผลให้ราคาพลังงานอ่อนตัวลงได้


แต่ในระหว่างนี้ รัฐบาลมีความพยายามอย่างเต็มที่ที่จะตรึงราคาน้ำมัน เนื่องจากราคาน้ำมันยังเป็นราคาตามตลาดเสรี ซึ่งทำกันนานแล้ว แต่การลดสัดส่วนน้ำมันชีวภาพลงไป ในส่วนของน้ำมันดีเซล ก็จะทำให้ลดต้นทุน ราคาน้ำมันลงได้ พร้อมระบุว่า การแก้ปัญหาครั้งนี้ ยังอยู่ในวงเงินของกองทุนน้ำมัน


นายสุพัฒนพงษ์ ยังกล่าวถึงช่วงปลายรัฐบาลมักมีปัญหาราคาสินค้าและน้ำมันสูงขึ้น จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ ว่า ทุกคนทราบดีว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายใน เป็นปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้นกับทุกประเทศ จึงอยากให้เข้าใจว่า รัฐบาลได้ทำอย่างดีที่สุด ที่จะประคับประคองราคาทั้งสองอย่าง


พร้อมเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญหาถาวร หากปัจจัยการเงินระหว่างประเทศ และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงกลับมาปกติ ทุกอย่างก็จะกลับมาอยู่ในกรอบที่รัฐบาลบริหารจัดการได้ โดยจะต้องรอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องมีข้อสรุป แต่ยืนยันไทยมีแผนรองรับไว้แล้ว และมีการติดตามสถานการณ์ทุกวัน ทั้งราคาน้ำมันที่ยังตรึงอยู่ รวมทั้งติดตามราคาสินค้าที่มีแนวโน้มลดลง


ส่วนกระแสข่าวการยุบสภาฯ ในช่วงนี้ จะส่งผลกระทบ ต่อเศรษฐกิจไทยหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ ชี้แจงว่า จะกระทบหรือไม่ ต้องรอดูผลที่จะเกิดขึ้น แต่ว่าจากการติดตามผลสำรวจความคิดเห็นของนักลงทุนญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศไทย ที่จัดทำโดยเจโทร พบว่า มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีนี้เป็นบวก และเติบโตมากขึ้นกว่าเดิม เท่ากับ 7-8 ปีที่ผ่านมา


ซึ่งส่วนตัวมองว่าอยู่ในจุดที่สูงสุดในรอบ 7 ปี ดังนั้นจึงคิดว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในจุดที่สร้างความมั่นใจเกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนต่างเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เกิดจากปัจจัยภายนอก และมุมมองของนักธุรกิจญี่ปุ่น ยังเห็นว่าสามารถควบคุมการระบาดของโควิดได้ดี ทั้งเรื่องการเปิดประเทศ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จึงอยากให้ทุกคน รวมถึงสื่อมวลชน ไปพิจารณาในเรื่องดังกล่าว และจากการพูดคุยกับนักลงทุนในหลายประเทศ ก็มีความพอใจ และมองว่าไทยเดินทาถูกทาง    


นายสุพัฒนพงษ์ ยังยืนยัน จะทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ ในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ และรัฐบาลได้ทำดีที่สุดแล้ว ในการแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน ภายใต้กรอบการบริการจัดการ จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า บ้านเมืองเพิ่งผ่านวิกฤตครั้งสำคัญ และวิกฤตยังไม่หมดไป ดังนั้นจึงต้องประคับประคองสถานการณ์ ให้มีโอกาสและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น


และนายกรัฐมนตรีตัดสินใจเปิดประเทศด้วยความระมัดระวัง เพื่อเพิ่มรายได้กลับเข้ามาสู่ประเทศไทย ให้เข้าสู่สภาพปกติให้เร็วที่สุด และเสริมการลงทุนให้มากที่สุด หวังให้คนไทยกลับเข้ามามีชีวิตปกติสุขและดีกว่าเดิม นี่คือความตั้งใจของรัฐบาล แต่เมื่อไม่พ้นวิกฤต ก็ต้องมีมาตรการต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือ


ส่วนเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ยังไม่ได้มีข้อสรุปใดๆทั้งสิ้น เพราะเหตุการณ์ต้องดูวันต่อวัน ว่าสถานการณ์ขณะนี้ ไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายใน แต่เกิดจากปัจจัยภายนอก



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ypkO5Mg9VP8


คุณอาจสนใจ