ป.ป.ส.ยันยึดแล้ว เครื่องบิน 'ตู้ห่าว' อายัด 40 บัญชี เหลือเงินหลักแสน 'ชูวิทย์' ชำแหละเรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย

เมื่อวันที่ 26 พ.ย.65 ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม เปิดเผยกรณี เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ยึดอายัดเครื่องบินของ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว ว่า ขอยืนยัน ป.ป.ส. ได้ยึดอายัดเครื่องบินจริงหลังพบหลักฐานในเอกสารปรากฎชื่อ ตู้ห่าว เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท เเละเครื่องบินซื้อขายในนามชื่อบริษัทดังกล่าว


รวมทั้งมีรายการทรัพย์สินอื่น ๆ ที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มายื่นหลักฐานอีกจำนวนหลายรายการ มูลค่าหลาย 1,000 ล้านบาท อาทิ โรงแรม ที่ดิน ฯลฯ แต่อยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบว่าเชื่อมโยงกับบุคคลใดบ้าง นอกจากนี้ ยังมีชุดพาลีปราบยา ภายใต้การกำกับดูแลของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ดำเนินการตรวจสอบเพื่อตามยึดอายัดทรัพย์สินต่าง ๆ ให้มากที่สุด


ด้าน นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ได้อายัดเครื่องบินไว้ตรวจสอบ ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีการออกคำสั่งไปตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. โดยปัจจุบันเครื่องบินลำนี้ได้จอดไว้ที่ สนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบรายชื่อผู้ครอบครองปัจจุบัน ชื่อว่า โมเดิร์น ลาเท็กซ์ คอมพานี ไม่ใช่ชื่อของนายตู้ห่าว แต่อย่างใด แต่เชื่อว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกันกับนายตู้ห่าว อย่างไรก็ตาม หลังจากมีคำสั่งออกไป คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าผู้ที่ครอบครองเครื่องบินจะนำเอกสารมาชี้แจงที่มาที่ไปของเครื่องบินลำนี้


สำหรับการอายัดทรัพย์ของตู้ห่าว นอกจากเครื่องบินแล้วยังอายัดบัญชีธนาคารไว้ตรวจสอบแล้วกว่า 40 บัญชี โดยเงินในบัญชีโดยรวมแล้วพบว่าเหลือไม่กี่แสนบาท มีประมาณ 800,000-900,000 บาท เท่านั้น แต่เราต้องไปดูยอดเงินหมุนเวียน และจะใช้บัญชีธนาคารเหล่านี้ดูในเรื่องของเส้นทางการเงินด้วย


ส่วนทรัพย์สินของภรรยานายตู้ห่าว ก็ต้องอายัดไว้เช่นกัน หากเกี่ยวข้องความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดก็จะอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ ทั้งตัวผู้กระทำความผิดและคู่สมรส หากพบว่าทรัพย์สินต่างๆมีมูลเข้าข่ายความผิดจริง ก็จะขายทอดตลาดเก็บเป็นรูปแบบเงินไว้ก่อนหากศาลมีคำสั่งให้ตกเป็นของกองทุนจึงจะนำเงินที่ขายได้มาใช้ได้


นายวิชัย ยังอธิบายถึงขั้นตอนภายหลังการอายัดว่า เมื่อมีการอายัดแล้ว จากนั้นตนในฐานะเลขาธิการ ป.ป.ส ก็จะออกคำสั่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีนี้ ต่อมาจะเรียกเจ้าของทรัพย์สินมาชี้แจง หากไม่มีเอกสารพยานหลักฐานยืนยันที่มาของทรัพย์สินได้ เจ้าหน้าที่ก็จะรายงานให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินพิจารณาว่าควรยึดหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้ การยึดทรัพย์อื่น ๆ ของนายตู้ห่าว เช่น บ้าน ที่ดิน เงินสด หรือทรัพย์สินมีค่าอื่น ๆ ทาง ป.ป.ส. จะดำเนินการได้หลังจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งบัญชีรายการทรัพย์สินมาให้ ป.ป.ส. พิจารณาตรวจสอบ หากพบว่าเกี่ยวข้องก็จะออกคำสั่งให้ตรวจยึดตามขั้นตอนต่อไป


นายวิชัย ยืนยันด้วยว่า ป.ป.ส ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา หากมีความเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดก็ตาม ไม่ว่าจะนักการเมืองหรือผู้มีอิทธิพล เราดำเนินการหมด ไม่หวาดหวั่น พร้อมให้คำมั่นในการดำเนินการของ ป.ป.ส. ว่าเรามีอำนาจตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด เราทำเต็มที่


ขณะที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์บนเฟซบุ๊ก ระบุว่า ยึดแล้ว! เรื่องจริง ยิ่งกว่านิยาย ด่วน! เลขาธิการ ป.ป.ส. แจงคำสั่งล่าสุด ยึดเครื่องบินตู้ห่าวแล้ว ยันรายชื่อผู้ครอบครองเกี่ยวข้อง "ตู้ห่าว" เตรียมเรียกชี้แจงที่มา-ที่ไปเครื่องบิน ส่วนทรัพย์สินอื่นรอตำรวจส่งบัญชีรายการทรัพย์สินพิจารณา ภายใน 7 วันก่อนออกคำสั่งยึด


เมื่อวานตอนบ่าย เลขาฯ รัฐมนตรียุติธรรม คุณธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ บอก “ป.ป.ส. ไปยึดแล้วเรียบร้อย” แต่พอตกเย็นเลขาธิการ ป.ป.ส. บอก “ไม่จริง ยังไม่ได้ยึด เพราะไปถึงเจอชื่อไม่ใช่ตู้ห่าว เลยยึดไม่ได้”


ถามจริง ๆ ว่าท่าน ป.ป.ส. จะติด “โควิด” ไม่สบายหรือเปล่า? ใจคอท่านจะไม่ดูหลักฐานว่าใครเป็นเจ้าของก่อนไปยึดเลยเชียวหรือ! คงไม่ใช่ท่านไปยืนหน้าเครื่องบินที่หัวหินแล้ว เพิ่งมานึกขึ้นได้ว่า “เออ มันไม่ใช่ชื่อตู้ห่าว!”


โถ ท่านเลขาฯ ป.ป.ส. เจ้าขา นี่มันเครื่องบินทั้งลำ ไม่ใช่รถมอเตอร์ไซค์นะครับ หรือว่าไปเดินสะดุด “ตอ” เอา ต้องให้ผมไล่งัดเอกสารหลักฐานมาให้ดู ว่าใครเป็นเจ้าของ ใครเป็นนอมินี ดูที่หุ้นบริษัทก็รู้ ชื่อบริษัทก็มีชัดเจน แถมชื่อที่หางก็บอกว่า HAO แปลว่า ห่าว ชื่อนายตู้ห่าว คงไม่อ่านเป็น “หาว” ง่วงนอนนะครับ


หลังจากผมโชว์หลักฐาน วันนี้ท่านเลยเพิ่งตื่น กลับลำว่า “ใช่แล้ว ใช่แล้ว ของตู้ห่าวจริง ๆ ด้วย” แล้วท่านก็ยัง “วันแมนโชว์” ไปยึดเอาเอง ไม่ได้คิดจะกระซิบสะกิดบอกตำรวจเสียหน่อยว่าจะไปยึด


ตำรวจเขาอุตส่าห์จับมา พอตอนไปยึดทรัพย์สิน ไม่บอกกันมั่งเลย จู่ๆ ท่านก็ไปของท่าน จู่ๆ เมื่อวานท่านก็บอกไม่ใช่ และจู่ๆ วันนี้ก็กลับมาบอกว่าใช่


อีกทั้ง ท่านได้เพิ่งแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน เป็น “ประธานคณะอนุกรรมการ ตรวจสอบทรัพย์สินยาเสพติด” ก่อนหน้านี้ไม่นาน พอดิบพอดีกับจังหวะที่นายตู้ห่าวตกเป็นผู้ต้องหาคดียา โดย ป.ป.ส. ทำหน้าที่ไล่อายัดทรัพย์สิน


จริงๆ มันดูเหมือนไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง แต่ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ มีสถานะเป็น “ลูกเขย” ของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส่วนตู้ห่าวมีสถานะเป็น “หลานเขย” ของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อีก เท่ากับว่าท่านเอา “ลูกเขย” มาตรวจทรัพย์สินของ “หลานเขย” คนดองกันมาตรวจสอบทรัพย์สินกันเอง มันจะดีหรือครับท่าน? แม้ว่ายังไม่ได้สั่งการ แต่มันเหมือนเตรียมการยังไง ๆ ดูชอบกล


เรื่องเกี่ยวข้องกับยาเสพติด กฎหมายให้อำนาจ ป.ป.ส. ไว้อย่างล้นเหลือ สามารถยึดไว้ก่อนแล้วมาตรวจสอบทีหลังยังได้ อีกทั้งผมได้มอบรายการทรัพย์สินเป็นเอกสารมากกว่า 500 แผ่น ให้ มีทั้งท่าน เลขาฯ รัฐมนตรียุติธรรม ป.ป.ส. ดีเอสไอ รับไปกับมือ ยืนถ่ายรูปเป็นที่ระลึกออกสื่อให้เห็นจะ ๆ


แต่นี่ ป.ป.ส. เล่นป่าวประกาศรอตำรวจมาส่งรายการทรัพย์สินอีก 7 วัน ล้อเล่นกันหรือเปล่า? ประกาศเสียแบบนี้ คงทำลายหลักฐานกันป่นปี้วุ่นวาย แค่เครื่องบินลำเดียว ยังทำเอา งง ได้ขนาดนี้ ยังไปไม่ถึงทรัพย์สินหลักมูลค่าหลายพันล้าน แล้วจะทันได้ไงครับท่านเลขา ป.ป.ส.? เพราะขนาดตอนบุกจินหลิง ยังมีตำรวจเอารถหรู 4 คันมูลค่ากว่าร้อยล้านออกได้หายวับไปกับสายลม


มันเป็นเรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยาย เชื่อว่า “ปาฏิหารย์ อิทธิฤทธิ์” ยังมีอีกแยะ แต่ลองผม “ล็อคเป้า” ใคร อย่าพลาดแล้วกัน ผมขอชำแหละให้ถึงกระดูก ประชาชนเขาดูอยู่

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/Sdwj4jWp4XY