บุกทลายแก๊งเว็บพนันจีน ลอบใช้เมืองไทยเป็นฐานการพนัน เงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้าน

ตำรวจ PCT ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เปิดปฏิบัติการทลายแก๊งเว็บพนันจีน ลักลอบใช้เมืองไทยเป็นฐานการพนันออนไลน์ จับกุมแอดมินจีน 56 คน พบเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท เบื้องต้นยังไม่พบเชื่อมโยงผับนายทุนจีนย่านยานนาวา-รัชดา

วานนี้ (28 ต.ค.65) พล.ต.ต.พันธนะ  นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พร้อมด้วยตำรวจ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือตำรวจ PCT  ร่วมด้วยตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันแถลงภายหลังเข้าตรวจค้นโรงแรมแห่งหนึ่งในซอยรามคำแหง 32 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ก่อนบุกจับกุมแก๊งพนันเห่อซิง (HengXin) เว็บพนันออนไลน์จีน และรวบผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 56 ราย  พร้อมตรวจยึดของกลาง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค จำนวนกว่า 50 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 53 เครื่อง

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีการสืบสวนจนทราบว่ามีการรวมกลุ่มกันของชาวต่างชาติ ทั้งจีน มาเลเซีย ได้ลักลอบใช้เมืองไทยเปิดเว็ปไซต์พนันออนไลน์ชื่อ เห่อซิง (HengXin) มีพนักงาน 56 คน อยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ สวนหลวง และหัวหมาก กทม. ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อทำขออนุมัติหมายค้นหอพักดังกล่าว ซึ่งศาลอาญาพระโขนง ได้อนุมัติหมายค้นให้เข้าทำการตรวจค้นในวานนี้ (28 ต.ค.65)

ก่อนที่ในเวลา 12.00 น. วานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันนำกำลังเข้าตรวจค้นอาคารเป้าหมายตามหมายค้น  2 จุด คือที่ ซอยพัฒนาการ 40 และจุด 2 ที่โรงแรมใน ซ.รามคำแหง 32  ซึ่งจากการตรวจค้นทั้ง 2 จุด ปรากฏว่าพบคนจีนและคนมาเลเซียจำนวนหนึ่งกำลังทำงานเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ โดยทำหน้าที่ควบคุมดูแลความเรียบร้อยและดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์

ต่อมาได้ขยายผลและพบว่ากลุ่มคนร้ายอีกกลุ่ม ไปทำงานที่หอพักอีกแห่งหนึ่งบริเวณ หัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาบางส่วนเข้าขยายผล

จากการเข้าตรวจค้นพบกลุ่มคนจีนอีกกว่า 56 คน ทำงานเป็นแอดมินเว็ปไซต์พนันออนไลน์ ทำหน้าที่เป็นแอดมินชักชวนลูกค้าชาวต่างชาติให้เข้าเล่นผ่านแอพพลิเคชั่นโซเชียล Let’s Talk และ Telegram โดยเมื่อชักชวนเสร็จแล้วจะส่งไอดีของลูกค้าและผู้สมัครให้กับพนักงานแอดมินที่มีหน้าที่เปิดบัญชีลูกค้าแล้วจึงเปิดเครดิตให้ลูกค้าเล่น

อย่างไรก็ตามยังอยู่ระหว่างการสอบสวนและคัดแยกว่าทำหน้าที่อย่างไรบ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นแอดมิน แต่น่าจะทำหน้าที่อย่างอื่นด้วย

เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนจีนใช้เงินหยวนเล่นพนัน ยอดเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 500 ล้านบาท

จากการสอบสวนเบื้องต้น ส่วนใหญ่เข้ามาประเทศไทยแบบถูกกฎหมาย สถานะนักท่องเที่ยว เข้ามาได้ไม่นาน เพราะเป็นวีซ่านักท่องเที่ยวระยะสั้น แต่ต้องตรวจสอบต่อไปว่าเข้ามากี่ครั้ง ขณะเดียวกันยังพบว่าพฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านี้ มีการย้ายที่พัก ที่ทำงานในทุกๆเดือน เพื่อลอบทำงานผิดกฎหมายดังกล่าว ได้ค่าจ้างตั้งแต่ 40,000-70,000 บาท ต่อเดือน จึงได้ทำการจับกุมตัวแจ้งข้อกล่าวหา เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต  ส่วนเรื่องความผิด พ.ร.บ.การพนัน ต้องรอการตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีผู้เสียหายหรือไม่ หากพบถึงจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่ม

เมื่อถามว่ามีความเชื่อมโยงกับผับนายทุนจีนย่านยานนาวา และย่านรัชดาภิเษกหรือไม่ พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่พบ แต่ว่าต้องสอบสวนต่อไป ว่ามีการติดต่อหรือเชื่อมโยงกันหรือไม่ ส่วนเรื่องยาเสพติดก็ไม่พบเช่นกัน

เมื่อถามว่าทางโรงแรมจะมีความผิดด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.พันธนะ และ พ.ต.อ.ชย พานะกิจผกก.สอบสวน บก.สส.สตม. บอกว่า เบื้องต้น ทางโรงแรมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าตำรวจเป็นอย่างดี แต่ถ้าหากผิด ก็คงผิดในเรื่องของการให้ที่พักพิง แต่ว่าต้องดูพฤติการณ์โดยรวมก่อน

ขั้นตอนจากนี้ นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจะได้ทำการประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อทำการขยายผลผู้มีร่วมส่วนร่วมในการกระทำความผิดต่อไป

ขณะที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ขอความร่วมมือจากประชาชนว่า ให้ช่วยเป็นหูเป็นตา เนื่องจากว่าในช่วงเดือน พ.ย.มีการประชุมเอเปค หากมีความสงสัยว่ามีสิ่งผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ รวมถึงเรื่องถูกหลอกลวงให้โอนเงิน ก็ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการป้องกันการเสียทรัพย์ได้ด้วยเช่นกัน

รับชมทางยูทูบที่ :   https://youtu.be/Gy-eXZDfUmo