'อ.อ๊อด' ตอบข้อสงสัย ยางรถบนหลังคา 'เมาท์เทนบี' ปัจจัยทำคนเจ็บ-ตายอื้อหรือไม่? เผยสาเหตุไฟพุ่งจากประตู

จากกรณีไฟไหม้ผับเมาท์เทน บี (Mountain B) ปรากฏภาพหลังคาของตัวอาคารที่มีการวางยางรถยนต์ไว้เต็มพื้นที่ จนทำให้โซเชียลตั้งคำถามว่า ยางรถยนต์เหล่านี้อาจเป็นอีกปัจจัย ที่ทำให้เกิดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วหรือไม่


เมื่อวันที่ 6 ส.ค.65 ตัวแทนสมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบประเมินเบื้องต้น พบว่าเหตุผลที่ใช้ยางรถยนต์วางไว้บนหลังคา น่าจะมี 2 เหตุผล คือ เพื่อซับเสียงเพราะเคยมีเหตุร้องเรียนว่าเสียงดัง และฝ้าเพดานเป็นวัสดุเมทัลชีทที่ไม่หนามาก จึงใช้ยางรถยนต์กดฝ้าเอาไว้ ไม่ให้กระทบเวลาแสดงดนตรีเสียงดัง


ต่อมา มีข้อมูลน่าสนใจที่ระบุว่า เป็นเจ้าหน้าที่ปลอดภัยโรงงาน เพจ ทำไมถึงเจ๊ง ตั้งข้อสังเกตว่า "ทางร้านใช้ยางรถยนต์ใช้แล้ว ในการถ่วงหลังคา ซึ่งนี่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านมานานนม ใช้ในการทับหลังคา เสริมความแข็งแรง กันหลังคาปลิว ซึ่งก็ทำกันมาตั้งแต่อดีต ปัจจุบันเห็นไม่บ่อยแล้ว


ในกรณีนี้ เมื่อเกิดเพลิงไหม้ จะจากจุดใดก็ตาม ยางที่วางด้านบน เมื่อถูกความร้อน เปลวไฟ จะเกิดการหลอมละลาย และปล่อยสารเคมี ทั้งในรูปควัน ไอระเหย ของเหลว ซึ่งหลัก ๆ ที่ได้คือ น้ำมัน เมื่อยางรถยนต์ที่วางทับหลังคาไว้ กลายเป็นของเหลวหนืด ข้น ติดไฟได้ ละลายลงสู่พื้นที่ มันจะตกเป็นก้อน เป็นหยดพร้อมไฟที่ไหม้


เมื่อเคมีเหลวจากยาง ละลายและติดไฟ เมื่อตกใส่หลัง บ่า ไหล่ จะลุกติดไฟกับร่างกาย และดับได้ยาก เราจะเห็นได้ในคลิปบางคลิป ที่มีผู้บาดเจ็บ มีไฟติดตามหลัง บ่า ตัว จำนวนนึง


ย้อนดูภาพหลังเกิดเหตุบนหลังคา เมื่อ zoom ดูดีดี ทางเราได้เห็น หลุมบนหลังคาที่ทะลุ และเหล็กเส้น ที่มาจากยางเรเดียลเสริมใยเหล็ก ที่เหลือกองบนหลังคา หลังจากตัวยางถูกละลายจากเพลิงไหม้แล้ว คาดว่านี่เป็นสาเหตุ ที่ทำให้เพลิงลุกลามมากขึ้น และทำให้มีผู้บาดเจ็บมากเกินคาด"


ทีมข่าวสอบถามถึงความเป็นไปได้ กับ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


อ.อ๊อด มองว่า การใช้ยางรถยนต์วางบนหลังคา น่าจะเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้หลังคา และช่วยในการซับเสียง ส่วนด้านในใช้โฟมโพลียูรีเทน พ่นเคลือบตัวหลังคาด้านในอาคาร 1 ชั้น หลังจากนั้นใช้แผ่นซับเสียงที่เป็นโพลีสไตลรีนแผ่นสีดำ ซับอีกรอบ ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้ เป็นเชื้อเพลิงชั้นดี เมื่อเกิดเพลิงไหม้ ก็จะไหม้ลุกลามตั้งแต่แผ่นซับเสียง (โพลีสไตลรีนแผ่นสีดำ) ไหม้ขึ้นไปเจอโพลียูรีเทน ที่ฉีดติดกับตัวสังกะสี ก่อนจะไหม้ลุกลามไปเจอกับยางรถยนต์ที่อยู่บนหลังคา


สำหรับในตัวพลาสติกพอลิเมอร์แผ่นซับเสียงและโพลียูรีเทน เวลาไหม้ ก็จะหยดลงมาด้านล่างอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจจะมีติดตัวกับนักท่องเที่ยวหรือตามเสื้อผ้า


ส่วนยางรถยนต์ เมื่อเกิดไฟไหม้ หากเราดูยางรถยนต์จริง ๆ การเกิดไฟไหม้จะไม่มีการหยดของพลาสติกพอลิเมอร์ ยางรถยนต์คือพอลิไอโซพรีน ที่เป็นสายโซ่ที่ยาว ซึ่งเมื่อมีการไหม้ จะไหม้แบบแห้ง ๆ ไม่มีการหยด เพราะฉะนั้น ตัวจะหยดลงมาก็จะมีแค่แผ่นซับเสียงที่เป็นโพลีสไตลรีน


แต่ว่าในเคสที่ผู้ประสบเหตุวิ่งออกมาแล้วมีเปลวไฟตามไปด้วย น่าจะมีผลมาจากการเปิดประตูแล้วมีออกซิเจนเข้าไป การเปิดประตูแล้วมีออกซิเจนเข้าไปจะทำให้ไฟโหมออกมามากขึ้น เนื่องจากว่าหลักการติดไฟต้องมีเชื้อเพลิง ความร้อน และออกซิเจน


ขณะเดียวกันทีมข่าวสอบถามไปยัง นายจิรภัทร ธุรพันธุ์ หรือกบ กู้ภัยสัตหีบ ซึ่งเป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวผับดังกล่าววันเกิดเหตุ เล่าถึงสภาพและลักษณะของคนที่ถูกไฟคลอกตามร่างกาย ว่า บางคนก็มีไฟติดตัว มีไฟลุกจากตัวออกมา บางคนก็วิ่งไหม้เนื้อตัวไหม้ออกมา ไฟมีลักษณะเป็นจุด ๆ ติดหลัง ติดตามเสื้อผ้า มองว่าเป็นเหมือนปกติทั่วไปเวลาที่โดนไฟคลอก แต่ไฟที่ออกมาจะไม่ใช่ลักษณะที่เอาน้ำมันราดแล้วจุดไฟเอง


ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าหนึ่งปัจจัยมาจากยางรถยนต์ที่วางบนอาคาร เมื่อโดนความร้อน โดนไฟ หลอมละลายเป็นสารเคมี และตกลงมาติดตามตัวคนทำให้ไฟติด แล้วดับยาก นายจิรภัทร บอกว่า ข้อมูลตรงนี้ไม่รู้ แต่ยืนยันว่าคนที่วิ่งออกมามีไฟติดออกมา แต่บางคนก็ไม่มี สำหรับลักษณะการโดนไฟคลอกนั้นมองว่าเหมือนปกติทั่วไป

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/eDAEe3tkgRQ